วันนี้(15 มิ.ย.65) นายเชิดเกียรติ เมธีลักษณ์ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (อบจ.สงขลา) ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ต.อาซาน จันทร์ศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เพื่อเร่งรัดดำเนินคดีอาญาที่ 76/2564 และคดีอาญาที่ 77/2564 ที่เคยแจ้งความไว้แล้วกับ บริษัท ครีเอทอินโนเวชั่น จำกัด โดยนางชวลี เทียนงามสัจ บริษัท เอ็กซ์ ทู ที อินดัสตรี จำกัด โดยนายสุรพงษ์ ตรียานนท์ บริษัท พลวิศว์ เทค จำกัด โดยนายอิทธิพล ดวงเดือน บริษัท อะมีลัม จำกัด โดยนางสาวญาณี ลิ้มสถิรานันท์ หรือนางญาณี อารยะทรงศักดิ์ และห้างหุ้นส่วนจำกัด เพลิโอนี โดยนายอิทธิพล ดวงเดือน
ทั้งหมดเป็นกลุ่มบุคคลที่ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม และร่วมกันกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 เป็นเหตุให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาได้รับความเสียหาย
เนื่องจากผู้มอบอำนาจมีความกังวลเรื่องของห้วงเวลาที่นานพอสมควรแล้ว อีกทั้งกำลังจะขาดอายุความ โดยเฉพาะคดีแรกจะขาดอายุความในวันที่ 16 กรกฎาคม 2565 และคดีที่ 2 ขาดอายุความในวันที่ 18 กันยาน 2565
ขณะนี้เท่าที่ทราบยังไม่สามารถดำเนินการให้ได้ตัวผู้ถูกกล่าวหามาดำเนินคดีจำนวนหลายกลุ่ม จึงเป็นเหตุให้ศาลอาญาทุจริตประพฤติมิชอบภาค 9 ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาไปหลายคน และยังจับตัวไม่ได้ ประกอบกับได้รับข้อมูลว่า วันจันทร์ที่ผ่านมา มีผู้ต้องหาคนสำคัญ คือ นายอิทธิพล ดวงเดือน ซึ่งเป็นผู้ประมูลรถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาครั้งที่ 3 ที่ศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำพิพากษาให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา จ่ายเงินให้กับนายอิทธิพล ดวงเดือน ที่เป็นผู้ต้องหาร่วมอยู่ในของคดีนี้ด้วย ที่สำคัญ คือ นายอิทธิพล ดวงเดือน เป็นผู้ประมูล ได้ทั้งครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2
จึงมีความกังวลว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดพยายมที่จะประวิงเวลา เพื่อให้คดีขาดอายุความทางอาญา และไม่ต้องรับโทษทางอาญา เพราะได้รับประโยชน์สูงสุดในทางแพ่ง ซึ่งเป็นเงินภาษีจำนวนมากที่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น ที่เก็บภาษีมาจากประชาชนในจังหวัดสงขลา ต้องสูญเสียเงินมหาศาลและไม่ได้อะไรเลย
ดังนั้น ต้องมาติดตามเพื่อเร่งรัดในการดำเนินคดีต่อกลุ่มบุคคลทั้งหมดที่มีหมายจับ ต่อผู้บังคับการตำรวจภูธรสงขลา ในฐานะที่กำกับดูแลคดีนี้ โดยการตั้งคณะกรรมการร่วมซึ่งตำรวจภูธรสงขลา ได้สรุปสำนวนเสนออัยการส่งฟ้องแล้ว แต่ทราบว่า นายอิทธิพล ดวงเดือน ได้มาร้องเรียนขอความเป็นธรรม จึงเป็นที่มาของการตั้งคณะกรรมการ ฉะนั้น จึงเห็นลู่ทางว่ากระบวนการทั้งหลายของผู้ต้องหาในคดีนี้ เป็นเส้นทางที่จะทำให้ขาดอายุความมากที่สุด จึงมีความกังวลในส่วนนี้
ด้าน พล.ต.ต.อาซาน จันทร์ศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรสงขลา กล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินคดี ทางสถานีตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ได้รับสำนวนการสอบสวนมาจาก ป.ป.ช. หลังจากได้รับแล้ว ทางตำรวจก็ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนร่วมกันทำงานเก็บหลักฐานทั้งสองคดี เพื่อที่จะให้เกิดความเป็นธรรมกับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย
สำหรับในเรื่องของระยะเวลา ทางคณะกรรมการสอบสวนได้มีการเร่งรัดให้มีการสอบสวนให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลา เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับคู่กรณีทั้งสอง เราได้ทำงานตามรูปแบบของคณะกรรมการ กรอบระยะเวลา เรื่องของการสิ้นสุดอายุความ ก็เป็นสิ่งที่ทางพนักงานสอบสวนให้ความสำคัญ
ขณะนี้ได้มีการสั่งการให้กองบังคับการสืบสวนสงขลา ติดตามบุคคลที่มีหมายจับอยู่แล้ว ซึ่มี พ.ต.อ.เอนก ศรีคำอ้าย รอง ผบก.ภ.สงขลา เป็นหัวหน้าคณะทำงาน โดยขณะนี้ทางตำรวจยังไม่มีความกังวลใจในเรื่องนี้