วันนี้(17 มิ.ย.65) มีรายงานว่า นายอิทธิพล ดวงเดือน เจ้าของ บริษัท พลวิศว์ เทค จำกัด ผู้ชนะการประมูลจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (อบจ.สงขลา) ได้เดินทางหลบหนีออกนอกประเทศแล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.2565 เวลา 07.00 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เที่ยวบิน QR0831 จุดหมายปลายทาง คือ เมืองโดฮา ประเทศการ์ต้า
ภายหลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ได้ออกหมายจับบริษัทคู่เทียบประมูลทุกราย ที่เข้าร่วมการประมูลการจัดซื้อรถฯ กับ อบจ.สงขลา ในความผิดฐาน ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม ตกลงร่วมกันในการเสนอราคาเพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งผู้ใดเป็นผู้มีสิทธิ์ทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ
โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือโดยกีดกันมิให้มีการเสนอสินค้า หรือ บริการอื่นต่อหน่วยงานรัฐ หรือโดยการเอาเปรียบแก่หน่วยงานรัฐอันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติ
แหล่งข่าวจากตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการขอออกหมายจับนายอิทธิพล เพื่อตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี
อีกทั้งยังมีกระแสข่าวว่า มีความพยายามให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาจากผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลังการโอนสำนวนการสอบสวนจาก สภ.เมืองสงขลา ซึ่งเป็นเจ้าของคดี ไปยังกองบังคับการปราบปราม ทั้งๆ ที่คดีกำลังจะขาดอายุความในวันที่ 16 กรกฎาคม 2565 นี้แล้ว
จึงเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า ความพยายามที่จะขอโอนสำนวนคดีดังกล่าว เป็นไปเพื่อการประวิงเวลาให้คดีขาดอายุความหรือไม่
ก่อนหน้านี้ นายเชิดเกียรติ เมธีลักษณ์ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (อบจ.สงขลา) ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ต.อาซาน จันทร์ศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เพื่อเร่งรัดดำเนินคดีอาญาที่ 76/2564 และคดีอาญาที่ 77/2564 ที่เคยแจ้งความไว้แล้วกับ บริษัท ครีเอทอินโนเวชั่น จำกัด โดยนางชวลี เทียนงามสัจ บริษัท เอ็กซ์ ทู ที อินดัสตรี จำกัด โดยนายสุรพงษ์ ตรียานนท์ บริษัท พลวิศว์ เทค จำกัด โดยนายอิทธิพล ดวงเดือน บริษัท อะมีลัม จำกัด โดยนางสาวญาณี ลิ้มสถิรานันท์ หรือนางญาณี อารยะทรงศักดิ์ และห้างหุ้นส่วนจำกัด เพลิโอนี โดยนายอิทธิพล ดวงเดือน
ทั้งหมดเป็นกลุ่มบุคคลที่ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม และร่วมกันกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 เป็นเหตุให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาได้รับความเสียหาย
เนื่องจากผู้มอบอำนาจมีความกังวลเรื่องของห้วงเวลาที่นานพอสมควรแล้ว อีกทั้งกำลังจะขาดอายุความ โดยเฉพาะคดีแรกจะขาดอายุความในวันที่ 16 กรกฎาคม 2565 และคดีที่ 2 ขาดอายุความในวันที่ 18 กันยาน 2565
“ขณะนี้เท่าที่ทราบยังไม่สามารถดำเนินการให้ได้ตัวผู้ถูกกล่าวหามาดำเนินคดีจำนวนหลายกลุ่ม จึงเป็นเหตุให้ศาลอาญาทุจริตประพฤติมิชอบภาค 9 ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาไปหลายคน และยังจับตัวไม่ได้ ประกอบกับได้รับข้อมูลว่า วันจันทร์ที่ผ่านมา มีผู้ต้องหาคนสำคัญ คือ นายอิทธิพล ดวงเดือน ซึ่งเป็นผู้ประมูลรถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาครั้งที่ 3 ที่ศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำพิพากษาให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา จ่ายเงินให้กับนายอิทธิพล ดวงเดือน ที่เป็นผู้ต้องหาร่วมอยู่ในของคดีนี้ด้วย
ที่สำคัญ คือ นายอิทธิพล ดวงเดือน เป็นผู้ประมูล ได้ทั้งครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 จึงมีความกังวลว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดพยายมที่จะประวิงเวลา เพื่อให้คดีขาดอายุความทางอาญา และไม่ต้องรับโทษทางอาญา เพราะได้รับประโยชน์สูงสุดในทางแพ่ง ซึ่งเป็นเงินภาษีจำนวนมากที่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น ที่เก็บภาษีมาจากประชาชนในจังหวัดสงขลา ต้องสูญเสียเงินมหาศาลและไม่ได้อะไรเลย