วันที่ 22 มิ.ย.65 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการประชุมพรรค พท. เมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.) ว่า เป็นการเตรียมความพร้อมเดินหน้าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในส่วนของพรรค พท. ที่มีทีมงานซึ่งเป็นทั้งทีมกลั่นกรองเนื้อหาและกลั่นกรองบุคคล
เป็นขั้นตอนภายหลังจากที่เรายื่นญัตติไม่ไว้วางใจต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ แล้ว โดยจะนำเนื้อหาและข้อกล่าวหาทั้งหมดมาดูเพื่อขัดเกลาและจัดระบบอีกครั้งให้แน่น รวมถึงให้มีความคมมากยิ่งขึ้น โดยอาจจะมีบางประเด็นที่ต้องตัดออกและบางประเด็นที่เพิ่มขึ้น
ส่วนขั้นตอนการวางตัวผู้อภิปรายนั้น วันนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนดังกล่าว เนื่องจากยังไม่ได้เจรจากับพรรครัฐบาลว่าจะได้เวลามามากน้อยแค่ไหน หากเราได้กรอบเวลามาจึงจะจัดคนถูก แต่สำหรับผู้อภิปรายของพรรค พท.ก็พอมองเห็นกันอยู่ ซึ่งคงไม่มีการปรับอะไรกันมาก และยืนยันว่าเรามีความพร้อม หากจะอภิปรายในสัปดาห์หน้าก็สามารถทำได้เลย
ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวอีกว่า การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะที่ผ่านมามีการไปตีความกันผิดและมีการไปเทียบกับญัตติในอดีตของ นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรค พท.ที่มีการยื่นญัตติเข้ามาแล้ว โดยประธานสภาฯ บรรจุเข้าระเบียบวาระแล้วและเข้าสู่ระบบขั้นตอนการอภิปราย แต่ก็มีการนำมาแก้ไข
แต่ของเราถือว่ายังไม่ได้เข้าสู่ระบบ มันต่างกันตรงที่ว่าประธานสภาฯ รับไปแล้วและอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ ดังนั้น ระหว่างนี้ก็สามารถแก้ไขได้ตลอด ทั้งเนื้อหาสาระ และการเพิ่มคนที่จะอภิปราย ซึ่งอยู่ที่ว่าสมาชิกแต่ละพรรคเห็นพ้องต้องกันก็สามารถแก้ไขได้
ซึ่งกรณีนี้เทียบไม่ได้กับญัตติของนายอุดมเดช และไม่มีอะไรที่น่าวิตก อย่างไรก็ตาม วันนี้เวลา 14.00 น. แต่ละพรรคยื่นรายชื่อยืนยันความถูกต้องของญัตติ ต่อประธานสภาฯ เพื่อวินิจฉัยต่อไป
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่พรรคพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมตั้งทีมองครักษ์ปราบมาร นายสุทิน กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวล เพราะเป็นเรื่องธรรมดาของการอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกครั้ง จะมีการตั้งองครักษ์พิทักษ์โน่นนี่นั่น ซึ่งครั้งนี้อาจจะเป็นปราบมารก็ต้องว่ากันไป
เท่าที่ตนดูรายชื่อบุคคลแล้วก็เห็นว่าล้วนเป็นผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ เป็นคนหน้าใหม่ๆ ซึ่งน่าจะเป็นการเรียนรู้มากกว่าและมองว่าองครักษ์ปราบมารยังเป็นหน้าละอ่อนกันอยู่ เมื่อเทียบกับตัวคนอภิปราย ก็น่ารัก ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
เมื่อถามว่า กังวลว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมีงูเห่าเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจ ว่าจะมีงูเห่าเพิ่มขึ้นหรือไม่ ทราบแต่ว่าจะมีทั้งขาเข้าและขาออก เพราะช่วงปลายสมัยและใกล้จะมีการเลือกตั้งแบบนี้ การโยกย้ายพรรคมักจะเกิดขึ้นทุกครั้ง ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะแสดงออกตอนไหน
ฝากบอกประชาชนว่าหากคนจะไม่อยู่กับเรา เขาจะแสดงออกในทางตรงกันข้ามก็ไม่ออก ฉะนั้น บางคนก็จะมาหาเรา แต่อยู่ที่มารยาทของแต่ละพรรคว่าถ้าจะย้ายหรือจะรับไปอยู่ด้วย ในสมัยที่สภายังอยู่ที่เดิม ตนคิดว่าแต่ละพรรคจะต้องสงวนมารยาทเพื่อรักษาระบบสภา แต่หากหมดสมัยแล้วใครจะไปหรือจะอยู่ก็เป็นเรื่องปกติ
เมื่อถามถึง กรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.ระบุว่าพรรคพปชร. เป็นรองพรรค พท. นายสุทิน กล่าวว่า ที่จริงพรรคพปชร. ก็เป็นรองพรรค พท.มาตลอด ตนไม่ได้ซ้ำเติม
จากการเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรค พปชร.ก็แพ้ พรรค พท. แม้ว่าเราจะส่งคนไม่ครบทุกเขต แต่เราก็ชนะ ซึ่งเห็นได้ชัดเจน เมื่อผ่านมาจนถึงวันนี้หากไปดูผลสำรวจความคิดเห็นทุกสำนักก็มีความชัดเจนที่เป็นเช่นนั้น ไม่ใช่ว่าพรรค พท.เก่งการเมือง
แต่เป็นเพราะผลงานที่ประชาชนเขาเปรียบเทียบระหว่างที่พรรค พท.เป็นรัฐบาลกับวันนี้ที่พรรค พปชร.เป็นรัฐบาล ดังนั้น สิ่งที่ประชาชนสะท้อนออกมาได้สื่อถึงความเป็นจริง
เมื่อถามว่า แสดงว่าพรรค พท. มีความพร้อมที่จะเลือกตั้งแล้วใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า จะให้เลือกตั้งสัปดาห์หน้าเลยก็ได้ เพราะ พท. มีความพร้อมทั้งผู้สมัครและนโยบายต่างๆ
รวมถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มีแต่เพียงแค่ฝั่งรัฐบาลยังไม่พร้อม รวมถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง และกฎหมายลูก 2 ฉบับที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ที่เรามีความเป็นห่วง