กรณีคดีโกงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช(นายก อบจ.นครศรีธรรมราช) เมื่อปี 2557 คดีหมายเลขดำที่ 174/2562 หมายเลขแดงที่ 485/2563 ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุก นายมาโนช เสนพงศ์ จำเลยที่ 1 และ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ จำเลยที่ 2 คนละ 3 ปี แต่ลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุกคนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ตัดสิทธิ์เลือกตั้ง 10 ปี ไม่รอลงอาญา และตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2563
โดย นายมาโนช และ นายเทพไท สองพี่น้องผู้ต้องหาได้ยื่นขอประกันตัวและยืนอุทธรณ์สู้คดีในขั้นอุทธรณ์
จนต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติให้ นายเทพไท พ้นจากสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2564
ขณะที่ศาลอุทธรณ์ก็ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ยืนตามศาลชั้นต้น จำคุก นายมาโนช เสนพงศ์ และ นายเทพไท เสนพงศ์ เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา และตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี
โดยทันทีทราบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันดังกล่าว นายมาโนช และ นายเทพไท สองพี่น้องหน้าถอดสีเล็กน้อยด้วยความวิตกกังวล และให้ทนายรีบเร่งในการดำเนินการขอประกันตัว เพื่อยื่นฎีกาสู้คดีในชั้นศาลฎีกาต่อไปนั้น
ล่าสุด วันนี้(6 ก.ค.65) ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ จำคุก 2 ปี และเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง 10 ปี นายมาโนช เสนพงศ์ และ นายเทพไท เสนพงศ์ ในคดีอาญา คดีทุจริตเลือกตั้ง นายก อบจ.นครศรีธรรมราช
สำหรับคดีนี้ มี นายพิชัย บุณยเกียรติ อดีต นายก อบจ.นครศรีธรรมราช น้องชายของ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเดียวกัน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง