“เทพไท เสนพงศ์” ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ นักการเมืองคนล่าสุดที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษาให้พ้นสภาพความเป็น ส.ส. ลง นายเทพไท เสนพงศ์ เป็นบุตรคนที่ 3 ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด มีเชื้อสายตูนิเซีย ประวัติการศึกษา ประกาศนียบัตร คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(กฎหมายมหาชน) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย(FUTURE OF LEADER) คณะพัฒนาสังคมสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
เทพไท สมรสกับ นางสาวพอเพ็ญ เริงประเสริฐวิทย์ บุตรีของ พ.อ.(พิเศษ) พลเริงประเสริฐวิทย์ อดีต ส.ส.จังหวัดอุทัยธานี 6 สมัย อดีตหัวหน้าพรรคสยามประชาธิปไตย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตนักการเมืองและนักธุรกิจพันล้านในยุคนั้น
เริ่มต้นเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทางการเมืองตั้งแต่สมัยยังเรียนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้รับเลือกเป็น นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ก่อนเข้าสู่ถนนการเมือง ด้วยการเป็นมือขวา ของนายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช สมัยอยู่พรรคพลังธรรม กระทั่งขยับขึ้นมาเป็น ผู้ช่วย ส.ส. และเป็น เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดมหาดไทย เมื่อนายชำนิ ได้รับการแต่งตั้งเป็น รมช.มหาดไทย
เมื่อนายชำนิข้ามสังกัดมาอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไทจึงย้ายมาเข้าสังกัดพรรคสีฟ้า และได้เป็น ส.ส.ครั้งแรกในการเลือกตั้ง 6 มกราคม 2544 และได้รับเลือกตั้งเป็นต้นมา ทั้งยังสวมบทเป็นโฆษกของพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงการเป็นโฆษกประจำตัวให้กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายกรัฐมนตรีด้วย
หากกล่าวถึง ตระกูลเสนพงศ์ นับว่า เป็นนักการเมืองที่มากบารมีในจ.นครศรีธรรมราช โดยนายเทพไท นั่งเป็น ส.ส.นครศรีธรรมราช หลายสมัยติดต่อกัน ขณะที่ นายมาโนช น้องชาย ก็ได้รับการเลือกตั้งเป็นนักการเมืองท้องถิ่นต่อเนื่องหลายสมัยเช่นกัน
นายเทพไท นับเป็น ส.ส.ที่ไม่เคยสอบตก กระทั่งเมื่อถูกศาลพิพากษาให้จำคุก 2 ปี ตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี กรณีทุจริตการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2556-2557
เมื่อนายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครศรีธรรมราช เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายมาโนช น้องชาย นายเทพไท กรณีทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.เมื่อปี 2556 จนนำไปสู่การที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง และให้ใบแดง “นายมาโนช”อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2558
นายพิชัย ยังได้ยื่นต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เอาผิดทางอาญา ฟ้องมาโนช เป็นจำเลยที่ 1 และนายเทพไท เป็นจำเลยที่ 2 ในคดีอาญาฐานร่วมกันกระทำความผิดในการทุจริตการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ในฐานทำผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 ในความผิดฐานเลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยงแก่ผู้ใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครอื่นซึ่งศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2563 สั่งให้จำคุกนายเทพไทและนายมาโนช น้องชาย คนละ 2 ปี ไม่รอลงอาญา ต่อมานายเทพไทได้ใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์
ทั้งนี้ ผลจากคำตัดสินของศาล กกต.ได้ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อว่า กรณีของนายเทพไทนั้นจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่และพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.หรือไม่ โดยในวันที่ 16 กันยายน 2563 ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องของ กกต.และมีคำสั่งให้ นายเทพไท หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย และมีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2564 วินิจฉัยให้นายเทพไทสิ้นสภาพความเป็น ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98 (4) มาตรา 96(2)
เทพไท ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะส.ส.ครั้งสุดท้ายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรร่วมผลักดัน ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่…) พ.ศ…. เพื่อปลดล็อคพืชกระท่อมออกจากยาเสพติดให้โทษ ที่มีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานกรรมาธิการ และนายเทพไท เป็นกรรมาธิการ โดยที่ประชุมได้ลงมติในวาระสาม เสียงข้างมาก 319 เสียงผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวไปเป็นที่เรียบร้อย
ปิดฉากการเป็น ส.ส. นครศรีธรรมราช 4 สมัยลงไปอย่างน่าเสียดาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ด่วน! “เทพไท เสนพงศ์”พ้นส.ส.นครศรีธรรมราช เว้นวรรคการเมือง 10 ปี
“เทพไท เสนพงศ์”ระทึก! ลุ้นศาลรธน.บ่ายวันนี้พ้นเก้าอี้ส.ส.หรือไม่
“เทพไท”ซีด ศาลรธน. สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.