กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติชี้มูล นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ พรรคพรรคภูมิใจไทย นายสุนทร วิลาวัลย์ บิดา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปราจีนบุรี และ กับพวก กรณีบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในเขต จ.ปราจีนบุรี
โดยป.ป.ช.ชี้มูล นางกนกวรรณ และ นายสุนทร มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ฐานสนับสนุนการกระทำความผิด ซึ่งป.ป.ช.ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อพิจารณาส่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังชี้มูลความผิด นางกนกวรรณ ฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากกรณีดังกล่าวด้วย เนื่องจากดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี โดยความผิดจริยธรรมร้ายแรง ป.ป.ช.จะส่งฟ้องต่อ “ศาลฎีกา” โดยตรง
สำหรับความผิดของ นางกนกวรรณ และ นายสุนทร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 นั้น
มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 -20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่ง 100,000-400,000 บาท
ส่วนความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
มาตรา 86 ระบุว่า ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อน หรือ ขณะกระทำความผิด แม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกนั้นก็ตาม ผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ต้องระวางโทษ 2 ใน 3 ส่วนของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่สนับสนุนนั้น
ขณะที่ในส่วนของ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ ซึ่งมีความผิดจริยธรรมร้ายแรงด้วยนั้น เมื่อป.ป.บ.ส่งไปยัง “ศาลฎีกา” แล้ว หากศาลฎีกาประทับรับฟ้อง ศาลจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะต้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีหรือไม่ คล้ายกับคดีของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.
ส่วนอัตราโทษตามความผิดจริยธรรมร้ายแรงนั้น ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 (ฉบับใหม่) มาตรา 87 ระบุว่า เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนและมีความเห็นว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาวินิจฉัย โดยในวรรคสาม ระบุว่า ให้นำความในมาตรา 81 และมาตรา 86 มาใช้บังคับด้วยอนุโลม
มาตรา 81 ระบุว่า กรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ประทับฟ้องตามมาตรา 77 ให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษา เว้นแต่ศาลฎีกา มีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ในกรณีที่ศาลฎีกา พิพากษาว่า ผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาให้ผู้ต้องคำพิพากษานั้น พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น มีกำหนดเวลาไม่เกิน 10 ปี ด้วยหรือไม่ก็ได้
โดยวรรคสองระบุใจความสำคัญว่า หากถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งแล้ว ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งทางการเมืองอีกตลอดไป
ส่วนมาตรา 86 ระบุว่า กรณีคำพิพากษาของศาลฎีกาถึงที่สุดให้ยกฟ้อง ถ้าผู้ดำรงตำแหน่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ และยังมิได้พ้นจากตำแหน่งไปก่อน ให้กลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา
ชะตากรรมของ “ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์” กำลังเผชิญกับความผิดซึ่งนำไปสู่การติดคุกตะราง และประหารชีวิตทางการเมือง ด้วยการตัดสิทธิห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต …ส่วนผลสุดท้ายจะลงเอยเช่นไร ต้องรอติดตามกัน
ประวัติ ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์
สำหรับประวัติของ ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ จากพรรคภูมิใจไทยนั้น ข้อมูลจากวิกิพีเดีย ระบุว่า นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ (ศรีจันทร์งาม) เกิดเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2509 ปัจจุบันอายุ 54 ปี เริ่มดำรงตำแหน่งรมช.ศึกษาธิการตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.2562
ดร.กนกวรรณ เกิดที่จ.ปราจีนบุรี มีชื่อเล่นว่า “โอ๊ะ” เป็น บุตรสาวของ นายสุนทร วิลาวัลย์ อดีตส.ส.ปราจีนบุรีหลายสมัย และ นางสุภาภร วิลาวัลย์
สำเร็จการศึกษา
-ปริญญาตรี จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
-ปริญญาโท จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
-ปริญญาเอก จากคณะสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก
ด้านชีวิตครอบครัว สมรสกับ นายปกรณ์ ศรีจันทร์งาม รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ มีบุตร-ธิดา 3 คน
ดร.กนกวรรณ เริ่มสนใจการเมืองจากการที่ได้ช่วยพ่อแม่หาเสียง กระทั่งปี 2543 ได้ลงสมัครและได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด(ส.อบจ.) ปราจีนบุรี เขต อ.บินทร์บุรี ต่อมาในปี 2547 ได้รับตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี
ปี 2548 ลงสมัครเป็น ส.ส.ปราจีนบุรี เขต 1 สังกัดพรรคไทยรักไทย และได้รับเลือกตั้งเป็นครั้งแรก
ต่อมาในปี 2549 ได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส. แต่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
ระหว่างปี 2550 - 2560 เป็นอาจารย์พิเศษ วิชาการเมืองการปกครองไทย (Thai Politics Government) คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ปี 2562 ร่วมงานการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย และได้รับแต่งตั้งเป็นรองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย และได้ลงสมัครส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 16 ซึ่งในรอบแรกไม่ได้รับเลือกตั้ง เนื่องจากพรรคได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพียง 14 ที่นั่ง
ต่อมาได้ดำรงตำแหน่งเป็น รมช.ศึกษาธิการ กระทั่งกลางปี 2563 ได้รับเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อแทน นางนาที รัชกิจประการ เนื่องจาก นางนาที ถูกศาลฎีกามีคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ จนพ้นจากตำแหน่ง
และเมื่อ ดร.กนกวรรณ ได้รับแต่งตั้งเป็น รมช.ศึกษาธิการแล้ว จึงได้ออกจากส.ส.บัญชีรายชื่อ เปิดทางให้ นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร ได้เลื่อนขึ้นมาเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อแทน