วันนี้(18 ก.ค.65) ที่พรรคไทยสร้างไทย แกนนำพรรคไทยสร้างไทย ได้แก่ น.ต.ศิธา ทิวารี ประธานคณะกรรมการอำนวยการและพัฒนาพรรค, ดร.ธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ดิจิทัลเพื่อสร้างพลังของประชาชน, นางสาวธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ ผู้อำนวยการศูนย์นโยบาย, และนายเจตุบัญชา อำรุงจิตชัย รองโฆษกพรรค ร่วมแถลงข่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์จากเพจพรรคไทยสร้างไทย เชิญชวนประชาชนร่วมโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผ่านระบบบล็อกเชน และการยืนยันตัวตนผ่านเบอร์มือถือ (ระบบ D-vote)
เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนกับการตัดสินใจของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ภายใต้แนวคิดนำ เสียงแท้ประชาชนส่งตรงถึงสภา โดยนายเจตุบัญชา กล่าวเปิดการแถลงข่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยเน้นการฟังเสียงของประชาชนเพื่อผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง ตามสโกแกนว่า นำเสียงแท้ของประชาชนส่งตรงถึงสภา
น.ต.ศิธา กล่าวว่า ที่ผ่านมาในระบอบรัฐสภาจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่จัดขึ้นเพื่อให้รัฐบาลได้รับฟังการประเมินผลงานของตัวเองผ่านการอภิปรายของฝ่ายค้านและผู้แทนประชาชนว่า ทำงานได้เข้าตา หรือ ตอบสนองประชาชนได้จริงหรือไม่
แต่ในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา เมื่อมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็มีกระแสข่าวการแจกกล้วย แจกเงินต่างๆ ถึงแม้ว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายชี้ให้เห็นประเด็นการทุจริตอย่างไร เมื่อรัฐบาลขึ้นมาพูดเพียงแค่ว่าไม่เป็นความจริง ก็ได้รับคะแนนโหวตไว้วางใจอย่างถล่มทลาย ซึ่งผลโหวตนั้นอาจจะไม่ตรงใจประชาชน
ดังนั้น ในครั้งนี้ที่จะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลชุดนี้ครั้งสุดท้าย แม้พรรคไทยสร้างไทยจะไม่มี ส.ส.อยู่ในรัฐสภา แต่ต้องการนำเสียงแท้จริงของประชาชนเข้ามาสะท้อน โดยการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนที่มีระบบยืนยันตัวตน 1 คน 1 โหวต ไม่สามารถวนกลับมาโหวตเพื่อให้ผลโหวตคลาดเคลื่อนได้ และไม่มีใครเข้ามาเปลี่ยนแปลงระบบได้ ซึ่งถือเป็นเสียงที่แท้จริงของประชาชน 100% พรรคไทยสร้างไทยถือเป็นองค์กรการเมืองแรกที่จะใช้เทคโนโลยีนี้สะท้อนเสียงของประชาชนให้ไปถึงรัฐสภา
“มีคนบอกว่าอยากให้ยุติความขัดแย้งด้วยระบบสภา อย่าเอาออกนอกสภา แต่ที่ผ่านมาพี่น้องประชาชนแสดงความคิดเห็น รัฐบาลไม่ฟังเลย ก็เกิดความคับข้องใจ ถึงเวลาก็อาจจะต้องไปเคลื่อนไหวข้างนอก ผมคิดว่าในการเปิดช่องทางให้พี่น้องประชาชนแสดงความคิดเห็นและรัฐบาลรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างแท้จริง นี่ก็จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่พรรคเลือกเดินทางนี้ และคอยดูว่าเสียงสะท้อนของประชาชนจะตรงกับเสียงโหวตของผู้แทนในสภาหรือไม่ เพราะถ้าไม่ตรงในการเลือกตั้งครั้งหน้า ประชาชนก็จะได้นำบทเรียนมาตัดสินใจเลือกตั้งแทนมาบริหารราชการและงบประมาณแผ่นดิน” น.ต.ศิธา กล่าว
ด้าน ดร.ธรรม์ธีร์ อธิบายว่า เพียงเข้าไปที่ DAO.thaisangthai.org (หรือ D-vote) สมัครสมาชิก และระบบจะส่ง OTP เพื่อให้ผู้ใช้ยืนยันตัวตน และเข้าไปโหวตไว้วางใจ ไม่ไว้วางใจ หรือเลือกงดออกเสียง นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีรายบุคคลรวมทั้งหมด 11 คน ได้เหมือนกับที่ ส.ส. โหวตในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีต่อโหวต ก็จะได้เสียงจริงของประชาชน ที่พรรคจะนำเข้าไปยื่นแก่วิปฝ่ายค้านในวันที่ 22 กรกรฎาคม 2565 เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 23 กรกฎาคม 2565
“โดยท่านโหวตได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันศุกร์ แม้ว่าการโหวตผ่านบล็อกเชนจะต้องมีการยืนยันตัวตน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่มากกว่าการโหวตในแพลตฟอร์มอื่นๆ ในโซเชียลมีเดีย แต่ถือเป็นการยืนยันเสียงแท้จริงของประชาชน ที่จะนำร่องไปสู่การรับฟังเสียงประชาชนในประเด็นสำคัญอื่นๆ ของพรรคด้วย”
ขณะที่นางสาวธิดารัตน์ กล่าวว่า ระบบการโหวตนี้อยู่ภายใต้หลักการใหญ่ของพรรคคือ การปลดปล่อยประชาชน (Liberate) โดยการส่งเสียงไปยังผู้มีอำนาจ และเพิ่มพลังประชาชน (Empower) ผ่านเทคโนโลยีนี้ ที่ผ่านมาศูนย์นโยบายของพรรคเปิดรับฟังเสียงของประชาชนเพื่อนำมาทำนโยบายเช่นกัน ขณะเดียวกัน นโยบายที่พรรคคิดขึ้นมาก็จะถูกนำเข้ามารับฟังเพื่อพัฒนาและแก้ไขผ่านเทคโนโลยีตัวนี้ด้วย พร้อมย้ำว่าเหลือเวลาอีก 4 วันก่อนที่จะมีการลงมติไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจรัฐบาล อยากให้ประชาชนเข้ามาร่วมกันโหวตและเพื่อแสดงพลังและส่งเสียงของประชาชน