“บิ๊กตู่” ว่าใคร เงินเดือนเป็นแสน ไม่จ่ายเงินกยศ. ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

22 ก.ค. 2565 | 07:02 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ก.ค. 2565 | 16:07 น.

“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าใคร เงินเดือนเป็นแสน ไม่จ่ายเงินกยศ. ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ 2565 เดือด ให้ไปเก็บเงินที่ทำประเทศเป็นหนี้ให้ได้ก่อนจะเอามาแจกให้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงฝ่ายค้าน ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตอนหนึ่งถึงประเด็นเกี่ยวกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ว่า รัฐบาลไม่ได้ไปทำลายระบบ กยศ. แต่ให้ความสำคัญ โดยเฉพาะคนที่ออกจากระบบการศึกษา ซึ่งสั่งการให้กระทรวงศึกษาธิการนำกลับเข้ามาแล้ว

 

“ในส่วนของหนี้ กยศ.ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องสอนให้คนไม่รับผิดชอบ ที่รัฐบาลทำอยู่ตอนนี้คือทำให้คนรับผิดชอบ เมื่อกู้เงินไปก็ต้องรับผิดชอบ แต่ทำยังไงให้ไม่เป็นภาระ โดยที่อภิปรายว่าให้เอาเงินทั้งก้อนไปแจกเลยนั้น อยากถามว่าจะเอาเงินจากที่ไหน หลายคน ไม่อยากเอ่ยชื่อ ยังไม่จ่ายเงินกยศ. เลย ทั้งที่มีเงินเดือนเป็นแสน ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ

นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า กรณีที่อภิปรายว่ารัฐบาลเงินไม่พอ เงินไม่มี เป็นหนี้สิน ทำไมไม่เติมเงินกยศ. อยากให้ไปเก็บเงินจากคนที่เอาไปใช้ประโยชน์เสียก่อน เพราะทุกวันนี้รัฐบาลก็กำลังใช้หนี้ให้อยู่หลักแสนล้านบาท และที่ยังไม่ได้นับอีกหลายคดี ถ้าเอามารวมได้ จะเอาเงินไปให้กยศ.ให้เต็มไปเลย

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

 

ส่วนการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพ ที่ผ่านมาได้มีการชี้แจงไปแล้วหลายครั้ง ทั้งวาระการอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนหน้านี้ วาระงบประมาณ วาระในกรรมาธิการ 

 

“จากวาระ และตามที่เหล่าทัพต่าง ๆ ได้ชี้แจง สรุปได้ว่า ถ้าท่านให้ได้แค่เท่าไหร่ ผมก็ทำเท่านั้น ถ้าไม่ผ่านก็คงไม่ผ่าน ถ้าผ่านก็ทำได้ จะได้เป็นหลักการเสียที โดยสิ่งที่มีการชี้แจงมามีเหตุมีผลในเรื่องของยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ อันไหนจำเป็น อันไหนไม่จำเป็น เร่งด่วน ไม่เร่งด่วน ถ้ามาบอกว่าไม่เร่งด่วนทั้งหมด ก็ไม่เป็นไร ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเป็นอำนาจของท่าน”

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

 

ส่วนการป้องกันประเทศ ดูแลพื้นที่ชายแดน ที่ผ่านมาได้ชี้แจงไปแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยืนยันว่า จะทำให้ดีที่สุด ส่วนจะให้ถูกใจทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่ได้ทำงานคนเดียว ทำงานด้วยระบบ และต้องทำงานประสานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

 

ขณะที่เรื่องการชุมนุม มีการอภิปายหลายอย่างว่าใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อป้องกันผู้เห็นต่าง อยากถามว่า ที่ผิดกฎหมายคือผิดกฎหมายปกติใช่หรือไม่ เป็นกฎหมายที่เขียนมาใหม่หรือเปล่า

 

ดังนั้นสิ่งต่าง ๆ ได้ให้นโยบายมาตลอดว่า ให้ความระมัดระวังเป็นที่สุดในการบังคับใช้กฎหมาย อะไรแจ้งเตือนได้ก็ไปแจ้งเตือน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน อาจจะได้รับคำชี้แจงที่ทำให้เข้าใจผิดเพี้ยนไป จึงต้องคุยกับผู้ปกครอง เพื่อให้ไม่ต้องถูกดำเนินคดี

 

การอภิปรายไม่ไว้วางใจ

 

ด้านสิทธิมนุษยชน ยืนยันว่า ได้ให้ไปเกิน 100% แล้ว และพยายามที่จะผ่อนหนักผ่อนเบาผ่อนสั้นผ่อนยาวให้โดยตลอด แต่ก็ไม่เข้าใจว่าการเคลื่อนไหวต่าง ๆ เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ช่วงเวลาที่มีรัฐบาล และมีพรรคการเมืองบางพรรคที่เข้ามาอยู่ตรงนี้ โดยคนไทยทั้งประเทศคงมองออก ไม่ว่าจะพูดจาในโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย เพื่อทำลายล้างระบบของเราทั้งหมด เปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด คิดว่าคนไทยคงไม่ยอม 

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คนเราต้องเคารพกติกา สิทธิมนุษยชนทุกคนก็ต้องมี ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันหมด แต่อย่าละเมิดซึ่งกันและกัน ส่วนกรณีที่มีการพาดพิงถึงบุคคลภายนอกว่า ไม่อยากให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น ซึ่งมีทั้งในส่วนของเรื่องที่เป็นความจริงและไม่เป็นความจริง เพราะไม่อยากให้เกิดความเสียหาย อยากให้ทุกคนเคารพในกฎหมายด้วย

 

พร้อมยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีเพกาซัส ให้เป็นหน้าที่ของส่วนกฎหมายดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาทะเลาะกัน แต่เป็นเวลาที่ควรพูดในสิ่งที่จะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติให้มากที่สุด