เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2565 ที่ห้องประชุม 302 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมร่วมคณะอนุกรรมการในคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ ตามคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมกัน 9 คณะ
นายพีระพันธุ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการและแนวทางการทำงานของคณะอนุกรรมการทั้ง 9 คณะ ที่ตนได้แต่งตั้งขึ้น เพื่อเข้ามาทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมฯ ซึ่งประกอบด้วย
1.คณะอนุกรรมการรับเรื่องราวร้องทุกข์ 2.คณะอนุกรรมการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ 3.คณะกรรมการตรวจสอบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ 4.คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับสถาบันการเงิน 5.คณะอนุกรรมการประสานการสนับสนุนและแก้ไขปัญหา
6.คณะอนุกรรมการติดตามและเร่งรัดการแก้ไขปัญหา 7.คณะอนุกรรมการติดตามและเร่งรัดการแก้ไขปัญหาเฉพาะกรณี 8.คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับข้อพิพาทและปัญหาที่ดิน
และ 9.คณะอนุกรรมการประสานงานและตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้และที่เกี่ยวกับชาวมุสลิม โดยมีประธานคณะอนุกรรมการของแต่ละคณะ ได้แก่ นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ นายสามารถ มะลูลีม พันตำรวจเอกสีหนาท ประยูรรัตน์ พันตำรวจเอกดุษฎี อารยวุฒิ นายอนุกูล ปิดแก้ว นางนงภรณ์ รุ่งเพ็ชรวงศ์ พลตำรวจตรีอำนาจ ไตรพจน์ และพลตรีเจียรนัย วงศ์สะอาด เข้าร่วมประชุม
นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับการประชุมในครั้งนี้เป็นการหารือร่วมกับประธานคณะอนุกรรมการทั้ง 9 คณะเพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนให้ได้รวดเร็วและทั่วถึง โดยมีเป้าหมายในการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงต่างๆ ที่ได้รับการร้องเรียนเพื่อขอความช่วยเหลือของประชาชน ตนได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการประสานการทำงานร่วมกัน เพื่อดูว่าการแก้ปัญหาติดขัดอยู่ที่ขั้นตอนไหน และสามารถแก้ไขได้อย่างไรบ้าง โดยเฉพาะกรณีเร่งด่วนเรื่องความเดือดร้อน เรื่องการทำมาหากิน การดำรงชีวิตของผู้ด้อยโอกาส คนยากจน คนพิการ เพื่อให้ทุกคนได้รับการดูแลอย่างรวดเร็วเท่าเทียมเสมอภาคกันตามดำริของนายกรัฐมนตรี เพื่อต้องการเร่งช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนทุกคน
“การทำงานของคณะอนุกรรมการทั้ง 9 คณะจะทำให้การช่วยเหลือประชาชนแก้ไขปัญหาตามข้อร้องเรียนและสามารถขับเคลื่อนไปได้รวดเร็วขึ้น เพราะมีการแบ่งการทำงานได้อย่างชัดเจน และเชื่อว่าเราจะสามารถเร่งรัดเพื่อให้ปัญหาของประชาชนที่ร้องเรียนมายังรัฐบาล ได้รับการช่วยเหลืออย่างเร็วที่สุด” นายพีระพันธุ์ กล่าว
ก่อนหน้านี้ นายพีระพันธุ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลตามข้อร้องเรียนของประชาชนในต่างจังหวัดมาแล้วหลายพื้นที่ อาทิ ให้ความช่วยเหลือประชาชนประสบปัญหาด้านความยากจน และการทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวที่เป็นคนสูงอายุ และปัญหาไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการจ้างงานสำหรับคนพิการ จ.บุรีรัมย์ จ.ร้อยเอ็ด และ จ.ชลบุรี รวมทั้งยังเดินทางไปติดตามข้อเท็จจริงปัญหาด้านกฎหมายแรงงาน และการประมง ที่ จ.ระยอง จนสามารถเร่งรัดให้ผู้รับผิดชอบดำเนินการคลี่คลายอุปสรรค ทำให้สามารถเดินหน้าประกอบอาชีพต่อได้