หลังจาก คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้ มีมติรับคำร้องของประธานรัฐสภา ส่งคำร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยความเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลง เนื่องจากดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ครบวาระ 8 ปี พร้อมขอให้มีคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย
ล่าสุด นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวจะกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ในการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมเอเปค ปลายปีหรือไม่ ว่า ไม่กระทบกับการประชุมเอเปคและความน่าเชื่อถือของต่างชาติ
ทั้งนี้ เมื่อดูจากเงื่อนเวลา ถ้าจากนี้ไป หากศาลรัฐธรรมนูญชี้ชัดเจนก่อนที่จะเกิดการประชุมเอเปคในเดือนพฤศจิกายน เชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หรือจะเป็นพล.อ.ประยุทธ์ ที่จะกลับมา ก็สามารถเดินหน้าไปตามแผนที่วางไว้ได้ และขณะนี้ก็การรักษาการก็เป็นไปตามกระบวนการที่จะให้รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 ทำหน้าที่รักษาการ
“ไม่กระทบกับการประชุมเอเปคและความน่าเชื่อถือ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกประเทศ ถ้าเป็นไปตามกระบวนการภายในทุกอย่างก็เดินหน้าต่อ ซึ่งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ ได้มีการพูดคุยกันถึงแนวทางว่าจะออกมาอย่างไรและเหตุการณ์ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร และทุกคนใน ครม.รับทราบกันอยู่แล้ว” นายดอน ระบุ
อย่างไรก็ตามในการทำงานด้านการต่างประเทศนั้น ยืนยันว่า จะไม่มีอะไรสะดุด รวมถึงการลงนามการประชุมทำได้ตามปกติ
ส่วนจะให้ความมั่นใจกับชาวต่างชาติอย่างไร หากมีนายกรัฐมนตรีรักษาการนั้น เรื่องในลักษณะนี้เกิดขึ้นได้กับทุกประเทศ แต่ถ้าไม่เกิดจะดีที่สุด ซึ่งหมายความว่า หากบ้านเมืองเรียบร้อยทุกอย่างเดินหน้าก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับบ้านเมือง ประชาชนและสังคม แต่ถ้าจะเกิดขึ้น ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ขณะที่ภาพลักษณ์ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างประเทศได้หรือไม่ นายดอน ระบุว่า ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร เพราะเวลา พล.อ.ประวิตร ไปในนามรองนายกรัฐมนตรี หรือไปแทนนายกรัฐมนตรีก็ได้รับการต้อนรับเสมอ ไม่มีความแตกต่าง
นอกจากนี้ในกรณีที่มีผู้ชุมนุมหลายกลุ่มกดดันรัฐบาลจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของต่างชาติในการประชุมเอเปคหรือไม่นั้น เชื่อว่า จะไม่กระทบ เพราะยังมีเวลาอีกหลายเดือน ก่อนจะถึงการประชุมเอเปคอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565