วันที่ 11 กันยายน 2565 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เปิดเผยว่า กรณีปรากฏข่าวความเห็นของประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. (นายมีชัย ฤชุพันธุ์) ที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน 3 แผ่น โดยมีความเห็นว่า
"โดยผลของมาตรา 264 ดังกล่าว คณะรัฐมนตรีรวมทั้งนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งอยู่เฉพาะในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 จึงเป็นคณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ตั้งแต่วันที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ใช้บังคับ คือ วันที่ 6 เมษายน 2560"
นายมีชัย ยังได้ระบุความเห็นไว้ด้วยว่า "อนึ่ง สำหรับรายงานการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 500 วันศุกร์ที่ 7 กันยายน 2561 ในส่วนที่เกี่ยวกับคำกล่าวของข้าพเจ้านั้น ขอเรียนว่า เป็นการตรวจรายงานที่ไม่ครบถ้วน เป็นการสรุปตามความเข้าใจของผู้จด คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ยังมิได้ตรวจรับรองรายงานการประชุมนั้น เพราะเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้ประกาศสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 12 กันยายน 2561 ความไม่ครบถ้วนดังกล่าวอาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนได้..."
เมื่อไปตรวจสอบบันทึกประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 500 วันศุกร์ที่ 7 กันยายน 2561 พบว่า นายมีชัย เคยให้ความเห็นต่อกรณีดังกล่าวไว้ดังนี้
"ประธานกรรมการ กล่าวว่า เมื่อพิจารณาบทเฉพาะกาลในมาตรา 264 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า "ให้คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้เป็นคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญนี้จะเข้ารับหน้าที่ และให้นำความในมาตรา 263 วรรคสาม มาใช้บังคับแก่การดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีด้วยโดยอนุโลม"
การบัญญัติในลักษณะดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า แม้จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ก็สามารถนับรวมระยะเวลาดังกล่าวรวมกับระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ได้ ซึ่งเมื่อนับระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องมีระยะเวลาไม่เกินแปดปี"
ไปตรวจสอบบันทึกประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 501 วันศุกร์ที่ 11 กันยายน 2561 พบว่า ระเบียบวาระที่ 2 มีการรับรองบันทึกการประชุมครั้งที่ 500 โดยไม่มีการแก้ไข ไปแล้วด้วย
สรุปว่า ความเห็นของ นายมีชัย จำนวน 3 แผ่น ในฐานะประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ จึงไม่สอดคล้องต้องกันบันทึกครั้งที่ 500 อย่างเห็นได้ชัด กล่าวคือ
นายมีชัย เคยแสดงความเห็นในบันทึกการประชุมครั้งที่ 500 ว่า "...แม้จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ก็สามารถนับรวมระยะเวลาดังกล่าวรวมกับระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ 2560 ได้ ซึ่งเมื่อนับระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องมีระยะเวลาไม่เกินแปดปี"
แต่ นายมีชัย กลับมาแสดงความเห็นในภายหลังต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า
"โดยผลของมาตรา 264 ดังกล่าว คณะรัฐมนตรีรวมทั้งนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งอยู่เฉพาะในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 จึงเป็นคณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ตั้งแต่วันที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ใช้บังคับ คือ วันที่ 6 เมษายน 2560"
นายเรืองไกร กล่าวสรุปว่า นายมีชัย ในฐานะประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ควรถือเป็นพยานบุคคลหรือพยานผู้เชี่ยวชาญตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 และคำเบิกความดังกล่าวควรเป็นข้อสำคัญในคดี
แต่คำเบิกความของนายมีชัย กลับไม่สอดคล้องต้องกันกับบันทึกการประชุมของ กรธ. ครั้งที่ 500 และ 501 กรณีจึงมีเหตุอันควรขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบคำเบิกความดังกล่าว เข้าข่ายเป็นการเบิกความเท็จซึ่งเป็นข้อสำคัญในคดีตามความในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 หรือไม่ และคำเบิกความดังกล่าว ควรตกไป หรือไม่
ทั้งนี้ นายเรืองไกร ได้ส่งหนังสือไปถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตรวจสอบกรณีดังกล่าว ผ่านทางไปรษณีย์ EMS