“วิษณุ”ลั่นตั้งกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษ ถกปม 8 ปี นายกฯ ไม่ขัดระเบียบ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตั้งข้อสังเกตการตั้งกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษ เพื่อพิจาณาปม “8 ปี นายกฯ” ขัดระเบียบกฤษฎีกาหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยยืนยันว่า ไม่ขัดระเบียบ และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นตำแหน่งทางราชการที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ถือเป็นปัญหาของประเทศ ซึ่งกรรมการฯ ตั้งมาตั้งแต่ ม.ค.2565 

ส่วนที่สังคมออนไลน์ตั้งคำถามว่า นายกฯ ขาดตอน หมายถึงอะไร นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ขอให้รอฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ อย่าวิพากษ์วิจารณ์ 

พร้อมระบุว่า นายกฯ ตามบทเฉพาะกาล ยึดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 264 และขอร้องสื่ออย่ามาถามเรื่องนี้ เพราะนั่นคือ คำให้การที่ชี้แจง ถูกบ้างผิดบ้าง ก็ไม่รู้ แล้วแต่จะให้การไป และตอบไปตามประเด็นที่ผู้ร้องตั้งไว้ สุดท้ายจะเป็นอย่างไร ถูก หรือ ผิด ฟังขึ้นหรือไม่ อยู่ที่ศาล 

โดยศาลอาจทิ้งประเด็นต่างๆ ก็ได้ อย่างบางประเด็นที่ให้การมา ตนก็ไม่เห็นด้วยที่จะต้องไปตอบทั้งหมด แต่เมื่อทีมกฎหมายเห็นว่า ตอบให้หมดทุกข้อก็ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องที่ไม่ควรตอบคืออะไร นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องนี้เคยมีคำวินิจฉัยของศาลมาแล้วว่า แบบนั้นแบบนี้ แต่มันก็ไม่ตรงกับเรื่องปัจจุบัน แล้วจะชี้แจงทำไม แต่เมื่ออยากชี้แจงก็ชี้แจงไป อย่างมากก็เสมอตัวไม่ขาดทุน และย้ำอีกครั้งว่า ให้รอฟังศาล ไม่มีประโยชน์ที่มาวิพากษ์วิจารณ์

รองนายกฯ กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันก็ไม่ทราบว่า 14 ก.ย.นี้ ศาลจะวินิจฉัยหรือไม่ แต่รัฐบาลยังไม่ได้วางแนวทางรับมือว่า หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร เพราะถ้าวินิจฉัยว่า 8 ปี ไม่ได้เริ่มนับตั้งแต่ปี 2557 พล.อ.ประยุทธ์ ก็กลับมาทำงานได้ในวันรุ่งขึ้น แต่ถ้าศาลนับตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งก็ครบตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.2565 ก็ไม่ต้องกลับมา โดยพล.อ.ประวิตร ก็นั่งรักษาการไป จะกี่วันก็แล้วแต่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ จะเรียกประชุมสภา และไม่มีอะไรโมฆะทั้งสิ้น
 

นายวิษณุ ชี้แจงด้วยว่า ถ้าเริ่มนับตั้งแต่ปี 2557 พล.อ.ประยุทธ์ จะพ้นไป ซึ่งกระทบกับรัฐมนตรีสิ้นสุดไปด้วย แต่ก็รักษาการไปไม่มีปัญหา โดย พล.อ.ประยุทธ์ ก็สามารถรักษาการได้ แต่มองว่า ไม่ควร ก็ให้ พล.อ.ประวิตร รักษาการไป จนกว่าจะเลือกนายกฯ คนใหม่

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร รักษาการนายกฯ มีอำนาจยุบสภาหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนตอบเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้วว่า ทฤษฎีมี แต่ในทางปฏิบัติไม่ใช่เรื่องง่าย พร้อมยกตัวอย่าง สมัยพฤษภาทมิฬ ที่ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ลาออกจากนายกฯ ซึ่ง นายมีชัย ฤชุพันธุ์ รองนายกฯ ในขณะนั้น ก็รักษาการ และมีการเตรียมคิดที่จะยุบสภา ซึ่งมีอำนาจ แต่เมื่อคิดไปคิดมาก็ไม่ทำ ก็ให้เขาไปหานายกฯ คนใหม่ แล้วให้นายกฯ คนใหม่ยุบสภาดีกว่า ซึ่งก็ได้ นายอานันท์ ปันยารชุน เข้ามา แล้วก็ยุบสภา

นายวิษณุ ยอมรับอีกว่า วันหยุดสุดสัปดาห์ ได้พบ นายมีชัย แต่ไม่ได้พูดคุยกัน โดยพบในงานสังคมที่มีคนจำนวนมาก ไม่ได้คุยเรื่อง “นายกฯ 8 ปี” และไม่จำเป็นต้องคุย พร้อมย้อนถามสื่อว่า ตนใกล้ชิดกับ นายปกรณ์ นิลประพันธ์ อดีตเลขานุการคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) มาก ในฐานะผู้บังคับบัญชา ซึ่ง นายมีชัย และ นายปกรณ์ ต่างก็ต้องชี้แจงศาล แต่สื่อสนใจว่า นายมีชัย จะตอบอะไร แต่ไม่สนใจว่า นายปกรณ์ จะตอบอะไร 
เมื่อถามย้ำว่าได้คุยกับนายปกรณ์ หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ตอบ

“ไม่มีปัญหา ไม่มีอะไรต้องเตรียมตัวเตรียมใจทั้งสิ้น ถ้าศาลบอกว่านับตั้งแต่ปี 2557 ก็ครบ 8 ปี ครม.ก็สิ้นสุดลง แต่ก็รักษาการต่อไป พล.อ. ประวิตร ก็รักษาการ จนกระทั่งประธาน ชวน หลีกภัย เลือกนายกฯ คนใหม่ ซึ่งนายกฯ คนใหม่ต้องตั้ง ครม.ใหม่ และถวายสัตย์ปฏิญาณตน จึงจะทำให้ ครม.รักษาการพ้นไป” นายวิษณุ ย้ำ