วันนี้(14 ก.ย.65) สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยในคำร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสอง ประกอบมาตรา 158 วรรคสี่ หรือไม่แล้ว
ศาลเห็นว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและหลักฐานเพียงพอให้พิจารณาวินิจฉัยได้ จึงให้ยุติการไต่สวนตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561มาตรา 58 วรรคหนึ่ง และกำหนดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ ลงมติและอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังในวันศุกร์ที่ 30 ก.ย.เวลา 15:00 น
ทั้งนี้คดีดังกล่าวศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย เมื่อวันที่ 24 ส.ค. และสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน รวมไปถึงให้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการและร่างรัฐธรรมนูญ และ นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขานุการคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ยื่นคำชี้แจงด้วย
และในวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา ศาลได้มีคำสั่งให้สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดส่งสำเนาบันทึกการประชุมและรายงานการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญครั้งที่ 501 วันอังคารที่ 11 ก.ย.2561 ซึ่งมีวาระการประชุมรับรองบันทึกการประชุมครั้งที่ 500 วันศุกร์ที่ 7 ก.ย.2561 ที่คณะอนุกรรมการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุม และรายงานการประชุมตรวจทานแล้ว โดยไม่มีการแก้ไขให้กับศาลภายในวันที่ 13 ก.ย.
ก่อนที่จะมีการประชุมในวันนี้ และนัดวินิจฉัยในวันศุกร์ที่ 30 ก.ย. ดังนั้น นับแต่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง จนถึงวันที่ศาลนัดวินิจฉัย รวมระยะเวลาในการพิจารณาคดีทั้งสิ้น 38 วัน
ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมได้หารือเพื่อกำหนดแนวทางการพิจารณาคดีว่าควรอย่างไร โดยจะพิจารณาจากเอกสาร พยานหลักฐานต่างๆ ว่า สิ้นข้อสงสัยแล้วหรือไม่ โดยที่ประชุมพิจารณา เห็นว่าพยานหลักฐานเพียงพอแล้ว จึงนัดลงมติในวันดังกล่าว