ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) วันนี้ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.แถลงว่า ผลจากการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดกรณีกล่าวหา พล.ต.ท.สมชาย นิตยบวรกุล (อ่วมถนอม) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ
โดยได้ส่งรายงานสำนวนการไต่สวนเอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ตกเป็นของแผ่นดิน
ต่อมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 8 ได้มีคำพิพากษาในคดีไปเมื่อวันที่ 10 ส.ค.65 ความแพ่ง เรื่องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน คดีหมายเลขดำที่ พท 1/2564 คดีหมายเลขแดงที่ พท 1/2565 ระหว่าง อสส. ผู้ร้อง กับพล.ต.ท.สมชายที่ 1 ผู้ถูกกล่าวหา นางเกศินี นิตยากุล ที่ 2 ภริยาผู้ถูกกล่าวหา และ น.ส.ปาณิสรา หรืออัญชิสา นิตยบวรกุล ที่ 3 บุตรสาวผู้ถูกกล่าวหา ผู้คัดค้าน
ปรากฏว่า ศาลพิพากษาให้ทรัพย์สินของผู้คัดค้านที่ 1 พล.ต.ท.สมชาย ที่เป็นทรัพย์สิน ในชื่อของผู้คัดค้านที่ 1, ที่เป็นทรัพย์สินในชื่อของผู้คัดค้านที่ 2 (นางเกศินี) และที่เป็นทรัพย์สินในชื่อของผู้คัดค้านที่ 3 (น.ส.ปาณิสรา) ที่ถือครองแทน รวม 136,276,311 บาท พร้อมด้วยดอกผลของเงินหรือทรัพย์สินที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตกเป็นของแผ่นดิน
ศาลสั่งให้ผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ส่งมอบเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเงินและทรัพย์สิน 136,276,311 บาท พร้อมด้วยดอกผลตามคำร้องแก่แผ่นดินโดยกระทรวงการคลัง
ทั้งนี้ หากผู้คัดค้านทั้ง 3 ไม่สามารถโอนทรัพย์สินให้แก่แผ่นดินได้ ให้ผู้คัดค้านที่ 1 ใช้เงิน 136,276,311 บาท หรือให้โอนทรัพย์สินอื่นของผู้คัดค้านที่ 1 ตามสัดส่วนของมูลค่าทรัพย์สินที่ขาดอยู่แก่แผ่นดินแทนจนครบถ้วน และหากไม่โอน ให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนา และให้ผู้คัดค้านที่ 1 ชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนผู้ร้อง 10,200 บาท
เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า สำหรับทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวมมูลค่า 136,276,311 บาท มีจำนวน 14 รายการ ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวที่ศาลมีคำพิพากษา ตรงกับที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทุกรายการ
ทรัพย์สินในชื่อ พล.ต.ท.สมชาย ประกอบด้วย
ทรัพย์สินในชื่อนางเกศินี ประกอบด้วย
นอกจากนี้ ยังมีทรัพย์สินในชื่อนางสาวปาณิสรา ประกอบด้วย