กกต.ถกบ่ายนี้ เคาะกฎเหล็กคุมเข้ม 180 วัน ห่วงยุบสภาก่อนคลอดกม.ลูก

22 ก.ย. 2565 | 06:26 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ก.ย. 2565 | 13:35 น.

กกต.ถกบ่ายนี้ ปมออกประกาศสร้างความชัดเจน 180 วันก่อนวันเลือกตั้ง คาดพรุ่งนี้ชัดเจน พร้อมแจงพรรคการเมือง ห่วงยุบสภาก่อนกฎหมายลูกบังคับใช้ พรรคการเมืองมีปัญหาทำไพรมารีโหวตแบบเก่า

วันที่  22 ก.ย.2565 นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. กล่าวกรณี กกต.เตรียมประกาศหลักเกณฑ์ให้พรรคการเมืองได้ทราบและปฏิบัติ เพื่อเตรียมพร้อมในช่วง 180 วันที่สภาผู้แทนราษฎรจะหมดวาระ    ซึ่งจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.  ว่าวิธีการหาเสียงมีกำหนดอยู่ในระเบียบของ  กกต.อยู่แล้ว    ไม่ว่าจะเป็นกรณี 180 วัน   กรณีสภาอยู่ไม่ครบวาระ หรือยุบสภา คือมาตรฐานแบบเดียวกัน

 

  เพียงแต่ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้อาจจะแตกต่างออกไป เพราะมีกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับรอการประกาศใช้    ทำให้เงื่อนไขในการหาเสียงบางอย่างยังไม่เกิดขึ้น   เช่น หน่วยเลือกตั้ง เขตเลือกตั้ง ต้องรอกฎหมายฉบับใหม่ ทำให้ฐานของผู้สมัครและพรรคการเมืองที่จะนำไปใช้ในการหาเสียงยังไม่เกิดขึ้น  

 

 ในช่วงบ่ายวันนี้ทางสำนักงาน กกต. จะเสนอร่างประกาศดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม กกต.   เพื่อพิจารณาก่อนจะแจ้งให้พรรคการเมืองทราบในวันพรุ่งนี้  ( 23 ก.ย.) เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติให้เกิดความชัดเจนในการหาเสียง 

นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต.

 

นายแสวง กล่าวถึงข้อกังวลที่พรรคการเมืองกลัวว่าในช่วง 180 วันอะไรทำได้ทำไม่ได้บ้างนั้น    ว่า ตัวระเบียบมีกำหนดไว้อยู่แล้ว พรรคการเมืองเคยใช้แล้ว แต่สิ่งที่ต่างออกมาคือระยะเวลาที่มากขึ้น    แต่ก่อนมีพระราชกฤษีกาเลือกตั้ง กรณีไม่ครบวาระจะใช้เวลาหาเสียงประมาณ 30 วันก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง  

 

แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไปเพราะ 180 วัน หรือ 6 เดือน มีกิจกรรมที่พรรคการเมืองจะหยุดไม่ได้ เช่น การประชุมใหญ่   การทำไพรมารี่โหวต การทำกิจกรรมทางการเมืองตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่ง กกต.จะมีการชี้แจงให้พรรคการเมืองได้รับทราบ ในการประชุมชี้แจงพรรคการเมืองที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้  ( 23 ก.ย.)   เพราะระยะเวลา 6 เดือน   หาเสียงทอดยาวมาก ซึ่งต้องดูองค์ประกอบว่าจะเข้าข่ายการหาเสียงการเลือกตั้งหรือไม่ 

เมื่อถามต่อว่าจะมีความชัดเจนเรื่องการหาเสียงกับการช่วยเหลือประชาชนหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า เส้นแบ่งทางกฎหมายมีอยู่แล้ว   เพียงแต่ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรต้องดูเป็นกรณีไป ทั้งนี้ตัวระเบียบมีอยู่แล้ว    เพียงแต่เงื่อนเวลาเพิ่มขึ้นมา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ใช้ระยะเวลา 180 วันเพิ่มขึ้นมา   และมีกฎหมาย 2 ฉบับที่จะเป็นเครื่องมือในการเลือกตั้งครั้งต่อไป   แต่ยังไม่มีผลใช้บังคับ เพื่อเป็นฐานในการทำงาน

 

  ส่วนถ้าไม่มีกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับจะมีปัญหาในการปฏิบัติหรือไม่   นายแสวง กล่าวว่า ถ้าไปถึงวันที่ 23 มี.ค.66 ทุกอย่างจะเรียบร้อย พรรคการเมืองก็จะมีเวลาเตรียมตัว  และมีช่วงเวลาในการหาเสียง การทำไพรมารีโหวตตามกฎหมายใหม่   แต่ถ้าสถานการณ์การเมืองทำให้พรรคต้องทำไพรมารีโหวตตามกฎหมายเดิม จะมีพรรคการเมืองทำไพรมารีตามกฎหมายดังกล่าวได้หรือไม่   สามารถส่งผู้สมัครได้หรือไม่  

 

อย่างไรก็ตามตนไม่ได้ห่วงสำนักงาน กกต.   เพราะมีการเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว แต่กังวลกับพรรคการเมือง เนื่องจากปัจจุบันมีพรรคการเมืองเป็นจำนวนมาก ถ้ากฎหมายใหม่ใช้บังคับก็จะทำไพรมารีโหวตตามกฎหมายใหม่    ซึ่งจะง่ายกว่าการทำไพรมารีแบบเก่า เพราะใช้เขตจังหวัดเป็นเขต แต่หากใช้กฎหมายฉบับเก่าจะต้องไปทำไพรมารีโหวตในทุกเขต ต้องมีการจัดตั้งสาขาและตัวแทนพรรคในทุกเขต ต้องมีการจัดประชุม ตรวจเช็คองค์ประชุม บันทึกการประชุม ซึ่งจะต้องลงรายละเอียดคะแนนของการโหวตผู้สมัครที่อาจจะเป็นปัญหายุ่งยากต่อพรรคการเมือง 

 

เมื่อถามว่าจะมีการตรวจสอบกรณีที่พรรคการเมืองลงพื้นที่  และแอบแฝงการหาเสียงอย่างไร นายแสวง กล่าวว่า  ทุกเรื่องกฎหมายกำหนดไว้อยู่แล้ว   ต้องดูข้อเท็จจริงแต่ละเรื่องว่าเป็นอย่างไร แต่ทุกคนต้องทำตามกฎหมาย ส่วนการลงพื้นที่ของรักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีก็ต้องจับตาตามปกติอยู่แล้ว