นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ตนได้รับข้อมูลมาจากชาวบ้านหลังนายรังสิมันต์ โรม ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เชิงดิสเครดิต พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้คนเข้าใจผิด ตนเองคิดว่าต้องออกมาชี้แจงเพราะไม่อย่างนั้นประชาชนจะเข้าใจสับสน โดยเรื่องเหตุการณ์กราดยิงที่ จังหวัดหนองบัวลำภู นั้นทุกคนต่างรู้สึกเสียใจไม่ต่างกัน
การที่มีนักข่าวเดินมาขอสัมภาษณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ท่านก็ตอบข้อเท็จจริงในทันทีว่า ผู้ก่อเหตุคือตำรวจยศเพียว ส.ต.อ.คนดังกล่าว ได้ติดยาเสพติดถูกให้ออกจากราชการไปแล้ว ซึ่งไม่ได้มีการช่วยเหลือตำรวจคนดังกล่าว แต่มีกลุ่มคนบางกลุ่มพยายามให้ร้ายให้คนเข้าใจผิดในตัว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเรื่องจริงเชื่อว่าทุกคนน่าจะทราบดีว่าท่านไม่ได้เกี่ยวข้อง ส่วนเหตุในการกราดยิงนั้น ต้องมีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก
แต่อย่าลืมว่าเหตุดังกล่าวเมื่อสืบเชิงลึกแล้วมันเป็นเรื่องส่วนตัว ทั้งตัวตำรวจผู้เสียชีวิต ครอบครัวตำรวจที่เสียชีวิต ผมเชื่อว่าทุกคนต่างมีความเสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว ผมคิดว่าไม่ควรไปซ้ำเติมแต่ต้องถอดเรื่องมาเป็นบทเรียนเพื่อแก้ไข และเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดซึ่งทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ได้มีคำสั่งมาตรการชัดเจนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดซึ่งทำได้ดีทำโดยหลักสากลจนได้รับการชื่นชมจากประเทศสหรัฐอเมริกา ( UNDOC ) แต่เนื่องจากภูมิภาคเอเชียเรานั้นมีกระบวนการผลิตยาเสพติดที่ใหญ่มาก ประเทศไทยเองก็เป็นรัฐกันชนคือเส้นทางผ่านของยาเสพติด ท่านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั้นไม่ได้ใช้ลูกปืนแก้ไขปัญหายาเสพติดเหมือนในยุคของ นายทักษิณ ชินวัตร ที่ใช้ลูกปืนตัดสินแทนศาล
“ผมเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศก็คงไม่เห็นด้วย เพราะไม่ใช่หลักการสากล ผมก็เคยเสนอเน้นย้ำไปแล้วว่าในชั้นกรรมาธิการวิสามัญการแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ลงมติว่าการแก้ปัญหายาเสพติดต้องแก้ไขในทุกมิติ ซึ่งท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็กำลังหามาตรการดำเนินการในขณะนี้ เพราะฉะนั้นการที่นายรังสิมันต์ โรม และ นายทักษิณ ชินวัตร ออกมาโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั้นเป็นการตีกินทางการเมือง พ่อแม่พี่น้องประชาชนได้บอกกับผมว่าไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย”
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ท้ายสุดนี้พี่น้องประชาชนฝากผมมาเป็นกระบอกเสียงว่า พรรคก้าวไกล ควรขับนายรังสิมันต์ โรม ออกจากพรรค เพราะที่ผ่านมาไม่เคยทำประโยชน์อะไรให้กับพรรคและประชาชนเลย ส่วนด้านนายทักษิณ ชินวัตร ก็ขอให้กลับมาสู้คดีไม่ใช่ออกมาไลฟ์สดพูดจาโดยไม่รับผิดชอบสังคมอะไรเลย ใน ขณะเป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้เห็นยาเสพติดหมดไป ต่อมาส่งให้พี่เขยเป็นนายก และส่งน้องสาวมาเป็นนายก ก็ไม่เห็นยาเสพติดหมดไป ผมก็ยังเห็นมีข่าวคนคลั่งยา หลอนยาเสพติดอยู่ และในขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ได้ลงพื้นที่ จว.หนองบัวลำภูเพื่อรับฟังปัญหา แก้ไขปัญหา และที่สำคัญสุดคือการเยียวยาช่วยเหลือครอบครัวเหยื่อผู้เสียชีวิต
“ทั้งสองท่านนั้นเป็นคนทำมากกว่าพูด ไม่ใช่เหมือนนาย รังสิมันต์ และ นายทักษิณพูดจาโกหกพกลมไปเรื่อยแต่ไม่ทำอะไรเลย ดังนั้นในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ถ้าไม่ลงมือทำอะไร ก็ควรสงบปากสงบคำ เพื่อช่วยให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศที่เสียใจได้มีสภาวะจิตใจที่ดีขึ้น ไม่ใช่เอาแต่พูดจาเพ้อเจ้อ ยกเรื่องคนตายมาหากินแบบนี้ คนที่เป็นส.ส. รวมถึงคนที่เคยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ควรพูดจาตีกินทางการเมืองในช่วงสถานการณ์แบบนี้ ผมขอฝากคำไปถึง นายรังสิมันต์ และ นายทักษิณ ว่า ถ้าคิดได้ ให้ช่วยคิด ถ้าคิดไม่ได้ ให้ช่วยทำ ถ้าทำไม่ได้ ให้ความร่วมมือ ถ้าร่วมมือไม่ได้ ให้กำลังใจ แม้ให้กำลังใจก็ไม่ได้ ให้สงบนิ่ง ถ้าทำได้จะเป็นผลดีต่อ บุคคลทั้งสองอย่างแน่นอน”