วันที่ 17 ตุลาคม 2565 นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ ผู้ช่วยเลขานุการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่าจากการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา 4 ครั้งที่ผ่านมา พรรคฝ่ายค้านได้ดำเนินการยื่นร้องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญไปแล้วกว่า 13 เรื่อง
เหลืออีก 6 เรื่อง ที่ต้องเร่งดำเนินการให้ทันในสมัยประชุมนี้ประกอบด้วย การยื่นขอตั้งคณะกรรมการร่วมกับ ป.ป.ช. ในคดี ยืมนาฬิกาเพื่อนของรองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ และคดีทุจริตจัดซื้อจัดซื้อจีที 200 หลังจาก ป.ป.ช.ไม่ชี้มูลความผิดในคดีดังกล่าว แต่แต่ฝ่ายค้านได้ข้อมูลที่สามารถนำไปสู่การดำเนินคดีได้
อีกเรื่องหนึ่งที่ฝ่ายค้านจะเร่งดำเนินการคือยื่นร้องต่อศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราวประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องให้กันชงและกัญชาออกจากยาเสพติดประเภทที่ 5 เนื่องจากประกาศดังกล่าวมีผลกระทบในวงกว้างต่อประชาชนและสังคม
จึงต้องขอให้ศาลปกครองคุ้มครองก่อน และจะยื่นร้องต่อ ก.ก.ต. ให้ยุบพรรคภูมิใจไทยและพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับนโยบายกัญชาเสรี ฐานความผิดออกนโยบายเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน ตามอาศัยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 92 คือการได้มาซึ่งอำนาจการปกครองโดยมิชอบ
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการออกนโยบายกัญชาเสรี เกิดผลร้ายกับประชาชน โดยไม่มีความรัดกุมรอบคอบหรือมีกฎหมายรองรับ เป็นการได้มาซึ่งอำนาจโดยมิชอบ ถือเป็นมูลเหตุที่สามารถนำไปยื่นร้องยุบพรรคได้
ซึ่งส่วนตัวมองว่าองค์ประกอบความผิดตอนนี้ครบแล้วเพราะใช้เป็นนโยบายหาเสียงตั้งแต่ปี 2562 ส่วนการหาเสียงเลือกตั้งครั้งต่อไปจะใช้นโยบายกัญชาเสรีหรือไม่จะต้องดูการกระทำต่อไป แต่หยุดการหาเสียงแต่ฝ่ายค้านจะยึดการหาเสียงเมื่อปี 2562 จนถึงการกระทำในปัจจุบันเป็นตัวตั้ง
นายแพทย์ชลน่าน ยังกล่าวอีกว่า ประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ที่สภาเห็นชอบ ไม่ได้ระบุชัดว่ากัญชาไม่ใช่ยาเสพติดแต่ให้ไปกำหนดในกฎกระทรวง แต่กลับมาออกกฎกระทรวงปลดล็อคกัญชาออกจากยาเสพติด โดยไม่มีกฎหมายรองรับทำให้เกิดปัญหาในวงกว้าง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายกำลังพิจารณาคาดว่า จะมีความชัดเจนในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ว่าจะยื่นยุบพรรคได้เมื่อไหร่