วันที่ 8 พ.ย. 2565 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (8 พฤศจิกายน 2565) เวลา 08.45 น. ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ นำ นายณัฐพล เดชเกศรินทร์ ผู้เสียหายจากเหตุก่อสร้างสะพานข้ามถนนพระราม 2 ซึ่งได้รับเงินชดเชยเยียวยาตามข้อร้องเรียนแล้ว พร้อมญาติ
เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อแสดงความขอบคุณกรณีเหตุการณ์อุบัติเหตุรถบรรทุกพุ่งชนแผงคอนกรีต ที่ปิดกั้นพื้นที่ก่อสร้างบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ทางหลักขาออกกรุงเทพฯ ประมาณกิโลเมตรที่ 35 + 475 จนทำให้ผู้เสียหายต้องสูญเสียขา 1 ข้าง
ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุได้มีการเจรจาตกลงค่าชดเชยและเยียวยาจากกรณีอุบัติเหตุดังกล่าวโดยผู้บาดเจ็บเรียกร้องเงินเยียวยา จำนวน 500,000 บาท แต่ผู้รับเหมาเสนอจ่ายได้เพียง 200,000 บาท ทำให้ตกลงกันไม่ได้ จนผู้เสียหายร้องเรียนขอความเป็นธรรมกรณีที่ต้องตัดขาข้างหนึ่งจนกลายเป็นผู้พิการ
และได้เรียกร้องขอความเป็นธรรมไปยังประธานคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยและติดตามกำชับการเร่งช่วยเหลือเยียวยาแก่ประชาชนผู้ได้รับความเสียหายให้มีความเป็นธรรมและถูกต้อง
ล่าสุดผู้รับเหมาก่อสร้างรายดังกล่าวได้ยอมจ่ายค่าเยียวยาแก่ผู้เสียหายเป็นจำนวนเงิน 500,000 บาทแล้ว เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา
โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้แสดงความห่วงใยและให้กำลังใจนายณัฐพล เดชเกศรินทร์ และญาติ พร้อมย้ำจะให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลช่วยเหลืออย่างเหมาะสม
รวมถึงเรื่องการประกอบอาชีพด้วย นอกจากนี้ในส่วนของกระทรวงแรงงานจะได้มีการประสานสำนักงานประกันสังคมและผู้เกี่ยวข้อง ในการตรวจสอบข้อมูลเพื่อให้การช่วยเหลืออย่างเหมาะสมต่อไป
ด้านนายณัฐพล เดชเกศรินทร์ และญาติ ได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีและนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่ช่วยเหลือและแก้ปัญหาตามข้อร้องเรียน จนในที่สุดได้รับเงินชดเชยเยียวยาตามข้อร้องเรียนแล้ว
พร้อมมอบปลาตะเพียนสานทองให้กับนายกรัฐมนตรีเพื่อแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งที่ช่วยเหลือ โดยขอเป็นกำลังใจให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลในการทำงานต่อไป