“พีระพันธุ์”ลงพื้นที่ฟังปัญหาประชาชน 2,278 คน ค้านสร้างคอนโดเคหะคลองจั่น

29 ต.ค. 2565 | 07:39 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ต.ค. 2565 | 14:49 น.

“พีระพันธุ์”ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง-รับฟังปัญหา พร้อมรับ 2,278 รายชื่อ ค้านสร้างคอนโดเคหะคลองจั่น ชี้โครงการขนาดใหญ่เกือบ 20 อาคาร “เกิดยาก” เหตุพื้นที่จำกัด-สาธารณูปโภคไม่พร้อม

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ ตามคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีประชาชนชุมชนคลองจั่นร้องเรียนคัดค้านการก่อสร้างโครงการอาคารสูงสำหรับผู้พักอาศัย The Lake และThe park ของการเคหะแห่งชาติ เนื่องจากกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และสภาพแวดล้อมของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เกิดความเดือดร้อน เช่น ปัญหาน้ำท่วม และปัญหาความแออัดของผู้อยู่อาศัย เป็นต้น

 

ก่อนการประชุมร่วมกับประชาชนในชุมชนคลองจั่น นายพีระพันธุ์ พร้อมด้วย พล.ต.ดร.เจียรนัย วงศ์สะอาด ประธานคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ และนายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ ได้เดินสำรวจพื้นที่โดยมีตัวแทนประชาชนในพื้นที่ให้ข้อมูลรายละเอียดความเป็นมาต่างๆ ของชุมชน 

โดยระบุว่า ชุมชนคลองจั่นถือเป็นชุมชนที่มีประวัติศาสตร์เรื่องราวสำคัญ เพราะเคยเป็นจุดที่สร้างที่พักอาศัยของนักกีฬาสำหรับแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 1 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อปี 2509 จากนั้นจึงมีประชาชนเข้ามาอยู่อาศัยจนหลายคนกลายเป็นผู้อาวุโส และสร้างครอบครัวสืบต่อมาเป็นรุ่นที่ 4 แล้ว 

 

ภายหลังการเคหะแห่งชาติได้พยายามเข้ามาพัฒนาพื้นที่ในบริเวณนี้หลายครั้ง ซึ่งชาวบ้านก็พยายามคัดค้าน แต่ก็ยังมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่อยู่ตลอด และมีการก่อสร้างเปลี่ยนแปลงพื้นที่หลายแห่ง จนกลายเป็นข้อจำกัดที่ทำให้ประชาชนไม่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ได้เหมือนเดิม 

โดยคณะของนายพีระพันธุ์ ได้เดินทางไปยังจุดสำคัญต่างๆ เช่น สนามฟุตบอลที่ชาวบ้านเคยใช้เป็นที่ออกกำลังกาย แต่ปัจจุบันถูกล้อมรั้วปิดสนิทจนหญ้าขึ้นรกร้าง  อีกทั้งยังไปตรวจสอบพื้นที่บริเวณสวนนวมินทร์ภิรมย์ และบึงพังพวย ซึ่งเป็นพื้นที่แก้มลิงรับน้ำ ก่อนที่จะเข้าร่วมประชุมกับประชาชนในชุมชนคลองจั่น เพื่อรับฟังข้อร้องเรียน และรับมอบหนังสือคัดค้านการก่อสร้างโครงการฯ ซึ่งมีประชาชนร่วมลงนามจำนวน 2,278 รายชื่อ

                            “พีระพันธุ์”ลงพื้นที่ฟังปัญหาประชาชน 2,278 คน ค้านสร้างคอนโดเคหะคลองจั่น
 นายนิคม วงศ์วานิช อายุ 88 ปี อดีตอาจารย์โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ตัวแทนอาวุโสของชุมชน กล่าวในระหว่างการประชุมว่า ตนอาศัยอยู่ในพื้นที่มาตั้งแต่ปี 2510 จนถึงตอนนี้เป็นเวลากว่า 50 ปีแล้ว และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การเคหะแห่งชาติมักจะคิดโครงการต่างๆ ขึ้นมาโดยไม่เคยสอบถามความคิดเห็นของคนในพื้นที่เลย 


ตนในฐานะของผู้ที่อยู่อาศัยมานานเห็นความเปลี่ยนแปลงและปัญหาที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด และทุกครั้งในฐานะของผู้อยู่อาศัยก็ต้องร่วมกับพี่น้องในชุมชนออกมาร้องเรียนคัดค้าน เปรียบเสมือนว่าไม่เคยได้นอนหลับสบาย เพราะมีฝันร้ายเกิดขึ้นเป็นระยะๆ และครั้งนี้ก็เช่นกัน 


ทั้งนี้ คิดว่าการคิดโครงการนี้ อาจจะไม่ได้เป็นความคิดริเริ่มของผู้ว่าฯคนปัจจุบัน แต่จะอาจจะมาจากความกดดันจากภาคส่วนอื่นๆ อย่างไรก็ตามในฐานะตัวแทนชุมชน อยากให้พิจารณา และคิดถึงความรู้สึกของประชาชนและชุมชนด้วย รวมถึงสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่จะได้รับความเดือดร้อนจากโครงการนี้อย่างแน่นอน

                            “พีระพันธุ์”ลงพื้นที่ฟังปัญหาประชาชน 2,278 คน ค้านสร้างคอนโดเคหะคลองจั่น
 “ผมอยากให้มาช่วยดูแลพวกเรานิดหนึ่งเถอะครับ เราลำบากยากแค้นที่ต้องอยู่กับความรู้สึกเหมือนฝันร้ายอยู่เรื่อยๆ  วันนี้ผมอายุ 88 ปี ผมต่อจากนี้อาจจะต้องเข้าวัดแล้วก็ได้ แต่ลูกหลานของพวกท่านยังอยู่ในพื้นที่นี้ต่อไปอีกนาน และการพูดครั้งนี้ไม่มีคนแพ้คนชนะ มีแต่การที่เราจะอยู่ด้วยกันด้วยหัวใจที่เป็นมนุษย์ จึงอยากให้ท่านได้พิจารณาเรื่องความเดือดร้อนของพวกเราด้วย” นายนิคม กล่าวทั้งน้ำตา


 นอกจากนี้ ในการประชุม ยังมีผู้อยู่อาศัยอีกหลายคน ร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากโครงการดังกล่าวหลายอย่าง ทั้งด้านสังคม และโครงสร้างทางวิศวกรรม เช่น การก่อสร้างอาคารตึกสูงหลายอาคาร แต่ละอาคารมีหลายห้องพักจะทำให้เกิดความแออัด ทั้งเรื่องจำนวนคน การจราจร และอื่นๆ รวมทั้งการรื้อสวนสาธารณะสวนนวมินทร์ภิรมย์ ซึ่งจะกระทบต่อพื้นที่แก้มลิงรับน้ำของทั้งเขตบึงกุ่มและเขตบางกะปิ และจะทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมเป็นวงกว้างขึ้นอย่างแน่นอน

                             “พีระพันธุ์”ลงพื้นที่ฟังปัญหาประชาชน 2,278 คน ค้านสร้างคอนโดเคหะคลองจั่น
 
ขณะที่ นายพีระพันธุ์ กล่าวภายหลังรับฟังความคิดเห็นและข้อร้องเรียนของประชาชนว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้มารับฟังความเดือดร้อนของประชาชนชาวคลองจั่นในประเด็นปัญหานี้ และตนได้รับรายงานจากผู้ว่าการเคหะฯ ว่า โครงการนี้ยังคงเป็นเพียงการศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้น ซึ่งยังไม่ได้สรุปว่าจะทำหรือไม่ 


แต่จากการที่ตนได้เดินดูพื้นที่ ได้รับฟังและรับทราบข้อมูลจากประชาชนและผู้อาวุโส ก็รับทราบถึงความกังวลของผู้อยู่อาศัย ขณะเดียวกันก็ต้องเข้าใจว่า การเคหะแห่งชาติในฐานะหน่วยงานของรัฐ ก็มีภาระหน้าที่ที่จะต้องจัดหารายได้เช่นกัน แต่การจะทำโครงการต่างๆ ก็ต้องไปดูเรื่องของกฎหมายว่า เป็นไปตามหลักเกณฑ์กฎหมายของการจัดตั้งหรือไม่ นั่นคือ การดูแลประชาชนให้มีที่อยู่ที่มีคุณภาพซึ่งเป็นภารกิจหลัก ไม่ใช่การมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ดิน
 

                            “พีระพันธุ์”ลงพื้นที่ฟังปัญหาประชาชน 2,278 คน ค้านสร้างคอนโดเคหะคลองจั่น

“เรื่องนี้ส่วนตัวแล้ว ผมเห็นว่าเป็นเรื่องยากที่จะดำเนินการได้ เพราะจากการดูพื้นที่ต่างๆ แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะทำขึ้นมา เพราะต้องดูเรื่องของสาธารณูปโภคต่างๆ ด้วย เนื่องจากการสร้างโครงการขนาดใหญ่ที่มีคนจำนวนมาก ย่อมต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของสาธารณูปโภค เรื่องของสิ่งแวดล้อม และระบบการระบายน้ำ เพราะเมื่อคนมาอยู่กันจำนวนเยอะก็ย่อมที่จะเกิดความแออัด ซึ่งผมดูแล้วคิดว่าเกิดยาก ผมจึงขอให้ประชาชนในชุมชนคลองจั่นใจเย็นๆ เพราะโครงการแบบนี้ไม่ได้สร้างกันขึ้นมาได้ง่ายๆ 

 

โดยเฉพาะไปกระทบกับสิ่งแวดล้อม และวิถีความเป็นอยู่ของชุมชน ที่สำคัญสุดท้ายต้องกลับมาที่กฎหมายว่าทำได้แค่ไหน และหากมีเป้าหมายจะจัดหาพื้นที่เพื่อทำที่อยู่อาศัยให้กับประชาชน อาจจะต้องดูว่าไปลงทุนที่อื่นจะคุ้มค่ากว่าหรือไม่ ซึ่งเรื่องทั้งหมดผมจะได้นำเรียนต่อท่านนายกฯต่อไป” นายพีระพันธุ์ กล่าว