พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบ ของประชาชนจากสถานการณ์อุทกภัย ในด้านการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 จึงได้ให้ความเห็นชอบขยายกำหนดเวลา การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ประจำปี พ.ศ. 2566 เป็นการทั่วไป ออกไปอีก 2 เดือน ได้แก่
1) ขยายกำหนดเวลา ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการจัดทำบัญชีรายการที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพื่อประกาศ และจัดส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ให้ผู้เสียภาษีแต่ละรายทราบ จากเดิมภายในเดือนพฤศจิกายน 2565 เป็นภายในเดือนมกราคม 2566
2) ขยายกำหนดเวลา ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการประกาศราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อัตราภาษีที่จัดเก็บ และรายละเอียดอื่นที่จำเป็น ในการจัดเก็บภาษี จากเดิมก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นก่อนวันที่ 1 เมษายน 2566
3) ขยายกำหนดเวลาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการแจ้งการประเมินภาษี โดยส่งแบบประเมินภาษี ให้แก่ผู้เสียภาษี
4) ขยายกำหนดเวลาของผู้เสียภาษี ในการชำระภาษีตามแบบแจ้งการประเมินภาษี จากเดิมภายในเดือนเมษายน 2566 เป็นภายในเดือนมิถุนายน 2566
5) ขยายกำหนดเวลาของผู้เสียภาษี ในการผ่อนชำระภาษี โดยงวดที่ 1 จากเดิมภายในเดือนเมษายน 2566 เป็นภายในเดือนมิถุนายน 2566 งวดที่ 2 จากเดิมภายในเดือนพฤษภาคม 2566 เป็นภายในเดือนกรกฎาคม 2566 งวดที่ 3 จากเดิมภายในเดือนมิถุนายน 2566 เป็นภายในเดือนสิงหาคม 2566
6) ขยายกำหนดเวลา ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการมีหนังสือแจ้งเตือนผู้เสียภาษี ที่มีภาษีค้างชำระ จากเดิมภายในเดือนพฤษภาคม 2566 เป็นภายในเดือนกรกฎาคม 2566
และ 7) ขยายกำหนดเวลา ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการแจ้งรายการภาษีค้างชำระ ให้สำนักงานที่ดินหรือสำนักงานที่ดินสาขา จากเดิมภายในเดือนมิถุนายน 2566 เป็นภายในเดือนสิงหาคม 2566
“การขยายระยะเวลา ดำเนินการตามกฎหมายดังกล่าว เพื่อช่วยบรรเทาภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และความเสียหาย จากสถานการณ์อุทกภัย ผู้เสียภาษีจะมีระยะเวลาเตรียมการชำระภาษี และผ่อนชำระภาษีประจำปี พ.ศ. 2566 เพิ่มมากขึ้น
และไม่ต้องเสียเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม หากได้ชำระภาษีภายในกำหนดระยะเวลา ที่ได้ให้ความเห็นชอบ” พลเอก อนุพงษ์ฯ กล่าว