"ศุภชัย" งานเข้า เสรีพิศุทธ์ ยื่น"ชวน" สอบครอบครองที่ดินรุกป่าดงพะทาย

ความคืบหน้ากรณีปมข้อร้องเรียน เกี่ยวกับการครอบครองป่าดงพะทาย ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ของ นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือ ครูแก้ว หรือ สหายแสง ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง หลังมีชาวบ้านร้องเรียนว่า ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

ก่อนนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธาน กมธ.ป.ป.ช. ออกมาแถลงเกี่ยวกับข้อร้องเรียน พร้อมสรุปข้อมูลรวบรวมหลักฐาน เสนอไปยัง ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาเอาผิด 
และในส่วนของสภาผู้แทนราษฎร นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ได้รับเป็นวาระการประชุมพิจารณา

คาดว่า จะมีการพิจารณาในสัปดาห์หน้า หากผิดจริงทางคณะกรรมการจริยธรรมสภาฯ จะเสนอไปยัง ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิจารณาให้พ้นตำแหน่ง รวมถึงตัดสิทธิ์ทางการเมือง และรอกระบวนการ ป.ป.ช. พิจารณาความผิด เกี่ยวกับการชี้แจงบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จต่อไป 

ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร ได้ให้ นายศุภชัย ชี้แจงข้อกล่าวหาแล้ว โดยยืนยันว่า ได้มีการครอบครองถูกต้องตามกฎหมาย แต่อยู่ระหว่างการพิจารณา ของคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร ว่า มีความผิดหรือไม่

นายบุญนาก ถิระสวัสดี เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า สำหรับที่ดินป่าดงพะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เดิมเป็นพื้นที่รัฐบาล จัดสรรให้คนยากจนไร้ที่ดินทำกิน มาตั้งแต่ปี 2517 จำนวนกว่า 2,000 แปลง รวมกว่า 20,000 ไร่ มีการออกไปจองให้กับชาวบ้าน ที่เข้าหลักเกณฑ์ไปแล้วบางส่วน 

สำหรับประเด็นปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้น ทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้รับมอบอำนาจจากอธิบดีกรมที่ดิน ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง จนกระทั่งพบปัญหาว่า พื้นที่ดังกล่าว เคยได้รับการจัดสรร มีบุคคลที่ได้รับใบจับจอง นำไปจำหน่ายต่อ ถือว่าผิดเงื่อนไขตามระเบียบกฎหมายที่ดิน ที่ไม่สามารถนำไปซื้อขายจำหน่ายได้ แต่สามารถรับมอบเป็นมรดกได้

นายบุญนากฯ กล่าวต่อว่า ล่าสุดที่ดินจังหวัดนครพนม ได้ดำเนินการตรวจสอบ เพื่อพิจารณาออกคำสั่งจำหน่ายเพิกถอน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ตั้งแต่เดือน ก.ค. - ก.ย. 65 มีพื้นที่ถูกจำหน่ายเพิกถอนคืนสภาพ รวมกว่า 90 แปลง ในจำนวนนี้เป็นพื้นที่ของ นายศุภชัย โพธิ์สุ จำนวน 39 แปลง เนื้อที่เกือบ 200 ไร่ โดยเป็นที่ดินจับจอง ที่ได้มาจากการซื้อขายใบจับจอง ถือว่าผิดเงื่อนไข จะต้องมีการจำหน่ายเพิกถอนคืนสภาพ 

 นายบุญนาก กล่าวว่า จากการตรวจสอบส่วนใหญ่พบว่า เป็นพื้นที่รกร้าง ส่วนการดำเนินการต่อไป จะต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณา ของกระทรวงมหาดไทย ในการออกประกาศ เพื่อเดินสำรวจออกโฉนดจัดสรรให้เกษตรกรอีกรอบ ตามเงื่อนไขระเบียบกฎหมายที่ดิน
 

นอกจากนี้ การพิจารณาว่า บุกรุกป่าหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่เดิม หากเป็นที่รกร้าง ไม่ถือว่าบุกรุก แต่หากเป็นพื้นที่ป่าสาธารณะ หรือป่าสงวน บุคคลที่เข้าไปครอบครองถือว่า เป็นการบุกรุก ทั้งนี้สำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนม ยืนยันจะดำเนินการตามระเบียบกฎหมายที่ดินทุกขั้นตอน

หากพบว่า บุคคลที่รับใบจับจอง แล้วกระทำผิดเงื่อนไข นำไปซื้อขายจำหน่าย จะต้องดำเนินการจำหน่ายเพิกถอนทุกราย โดยพื้นที่ จ.นครพนม มีเป้าหมายดำเนินการ ออกคำสั่งจำหน่ายคืนสภาพ อีกจำนวนกว่า 700 แปลง อยู่ระหว่างการดำเนินการ 

ด้าน นายศุภชัย  ชี้แจงว่า พร้อมเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการครอบครองที่ดินดังกล่าว และเป็นประเด็นเก่า ที่เคยถูก ส.ส. ฝ่ายค้าน อภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อปี 54 สมัยดำรงตำแหน่งเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ และได้ยื่นต่อ ป.ป.ช. ตรวจสอบแล้ว แต่เรื่องได้เงียบหายไปกว่า 10 ปี จึงมั่นใจว่า ไม่เป็นปัญหา เพราะหากมีปัญหาจริง ป.ป.ช. ต้องตรวจสอบตนไปนานแล้ว

อีกทั้งได้ชี้แจงไปแล้วว่า ที่ดินผืนนี้ตนได้มาอย่างสุจริตไม่ผิดกฎหมาย และได้ก่อนเข้ามาเป็น ส.ส. ไม่เข้าใจว่า เหตุใดคณะกรรมการจริยธรรมฯ ได้รับเรื่องจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ฯ มาพิจารณาอีกครั้ง