“นิพิฐ"ลุยยื่นป.ป.ช.กล่าวหา 2 กรรมการปกปิดหลักฐานคดีปาล์มอินโดฯ

09 ธ.ค. 2565 | 07:06 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ธ.ค. 2565 | 14:10 น.

“นิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา”ยื่นป.ป.ช.กล่าวหา 2 กรรมการ กระทำผิดกฎหมายอาญาร้ายแรง ปกปิด ซ่อนเร้นพยานหลักฐานสำคัญในคดีปาล์มอินโดฯ เพื่อช่วยพรรคพวกร่วมรุ่นไม่ต้องรับโทษ

 

วันนี้(9 ธ.ค.65)  นายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อกล่าวหา 2 กรรมการป.ป.ช. ในสำนวนคดีปาล์มอินโดฯ ว่า แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ปกปิดซ่อนเร้นพยานหลักฐาน ช่วยเหลือพรรคพวก ไม่ให้ได้รับโทษ พร้อมทั้งคัดค้านให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที  


การกระทำดังกล่าว ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, 200  และ มีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา  172, 177, 180, 183  


นายนิพิฐ กล่าวว่า เนื่องจากตนได้นำส่งพยานหลักฐานที่สำคัญแห่งคดีต่อคณะกรรมการป.ป.ช.หลายครั้งหลายหน แต่มีกรรมการป.ป.ช. ผู้รับผิดชอบสำนวนบางคน ได้ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม โดยการปกปิดซ่อนเร้นพยานหลักฐานที่สำคัญในคดี ไม่นำมาเข้าสำนวนและไม่นำมาพิจารณา ทั้งนี้โดยมีเจตนาช่วยเหลือพรรคพวก ทำให้ตนได้รับโทษในทางอาญา ในวันนี้จึงนำส่งพยานหลักฐานที่สำคัญอีกครั้ง ต่อกรรมการป.ป.ช.รายบุคคล

 

“พยานหลักฐานที่สำคัญ อาทิ เอกสารทางราชการของประเทศอินโดนีเซีย ที่บังคับใช้ทั่วราชอาณาจักร และราคาประเมินสวนปาล์ม โดยบริษัทประเมินที่จดทะเบียน ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างปราศจากข้อสงสัยว่า ผมเข้าร่วมลงทุนในโครงการในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ไม่มีความเสียหายใด แต่ความเสียหายเกิดจากการขายในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด และมีความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงในการไต่สวน ว่าวิธีการประมูลก่อนขายถูกต้อง ทั้งๆ ที่ผิดกฎหมาย”


นายนิพิฐ กล่าวด้วยว่า ปรากฏพยานหลักฐานว่า 2 กรรมการป.ป.ช. เป็นพวกเดียวกันกับผู้ถูกกล่าวหา โดยได้ร่วมอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง สถาบันวิทยาการตลาดทุนรุ่นเดียวกัน และบุคคลดังกล่าวเป็นปฏิปักษ์กับตน อันเป็นเหตุของการช่วยเหลือกัน 


นายนิพิฐ กล่าวว่า เมื่อตนรวบรวมพยานหลักฐานยื่นฟ้องกลุ่มที่ร่วมกันกระทำทุจริตก่อให้เกิดความเสียหายแก่ ปตท. และ ปตท.กรีนเอ็นเนอร์ยี่ ในโครงการปลูกปาล์มในประเทศอินโดนีเซีย ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เมื่อปี พ.ศ.2560 รวมทั้งสิ้น 6 คดี เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่ากลุ่มบุคคลที่กระทำการทุจริตในโครงการปาล์มอินโดฯ และทำให้ ปตท. ต้องเสียหาย มิใช่ตนเอง 

 

แต่ปรากฏว่า 2 กรรมการป.ป.ช. มีหนังสือถึงศาลอ้างว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จนเป็นเหตุให้ศาลสั่งจำหน่ายคดีทั้งหมด เพื่อรอผลการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จนกระทั่งปัจจุบัน คณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่ได้เริ่มลงมือไต่สวนข้อเท็จจริงในประเด็นที่ตนได้กล่าวหาและยื่นฟ้องทั้ง 6 คดีแต่อย่างใด


“หากมีการละเว้น ปล่อยปละละเลย ไม่ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลผู้ที่ทำให้ ปตท. และ ปตท.กรีนเอ็นเนอร์ยี่ ได้รับความเสียหาย ผมจะฟ้องสำนักงานป.ป.ช. และผู้ที่เกี่ยวข้องเรียกค่าเสียหาย 2 หมื่นล้านบาท” นายนิพิฐ ระบุ