สตช.สรุป“ทุจริตสอบตำรวจ” 73 ราย สั่งฟันไม่เลี้ยงตำรวจพัวพันทั้งวินัย-อาญา

12 ธ.ค. 2565 | 08:57 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ธ.ค. 2565 | 16:10 น.

สตช.เผย”ทุจริตสอบตำรวจ”พบผิด 73 ราย ที่เหลือรับราชการได้ปกติ ยันขบวนการทำข้อสอบยังรัดกุม รับอาจมีช่องโหว่บ้าง ขณะที่ “ร.ต.อ.หญิง”ถูกโยงเงิน30 ล้าน ขอตรวจสอบก่อน ย้ำหากมีตำรวจเกี่ยวข้องฟันทั้งวินัย-อาญา

วันนี้(12 ธ.ค.65) มีความคืบหน้าจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ถึงการ “ทุจริตสอบตำรวจ” โดย พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.)  เปิดเผยว่า มีการทุจริตสอบคัดเลือกนายสิบตำรวจในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เมื่อเดือนมีนาคม 2565 และเจ้าหน้าที่พบมีผู้เข้าสอบนำโพยคำตอบเข้าไปในห้องสอบ 1 คน จนทำให้มีการสืบสวนขยายผลจนพบมีผู้ร่วมกระทำความผิดรวม 73 คน และขณะนี้ได้ตัดสิทธิ์การเข้าเป็นนายสิบตำรวจไปแล้ว ส่วนที่เหลือไม่พบความผิดก็ให้เข้ารับราชการตามปกติ


พล.ต.ท.นิรันดร กล่าวอีกว่า ส่วนจะมีตำรวจ และ  ร.ต.อ.หญิง นายหนึ่งที่พบมีเงินหมุนเวียนกว่า 30 ล้านบาท รวมทั้งบุคคลอื่นว่าจะเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือไม่ ขณะนี้ได้รับรายงานมาจากภูธรภาค 9 แล้ว แต่ขอตรวจสอบในรายละเอียดก่อน และภายในสัปดาห์นี้จะชี้แจงรายละเอียดได้ 

 

 

 

ขณะเดียวกัน ตำรวจได้รับร้องเรียนการทุจริตสอบนายสิบตำรวจฝ่ายอำนวยการ ในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ที่มีการเผยแพร่คำถาม และคำตอบของข้อสอบในครั้งนี้ ที่มีผู้เข้าสอบกว่า 2 แสนคน และขณะนี้สอบผ่านการคัดเลือกไปแล้ว 1,160 คน อยู่ระหว่างการรอสอบสัมภาษณ์ และตรวจร่างกายที่จะรับเข้า เหลือ 725 คน

 

ส่วนกรณีที่พบว่ามีชื่อและนามสกุล ของผู้เข้าสอบซ้ำกัน 2 คน จากการตรวจสอบพบว่า เลขประจำตัวประชาชนของทั้งสองคนไม่ตรงกัน แต่ชื่อนามสกุลเดียวกัน จึงสามารถเข้าสอบได้ และยืนยันว่า หากเลขประจำตัวประชาชนตรงกัน จะไม่สามารถลงสมัครในเว็บไซต์ได้



ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่ยืนยันว่า เป็นการทุจริตสอบ เบื้องต้นคำถาม และคำตอบที่นำมาเผยแพร่ตรงกับข้อสอบจริง แต่คาดว่าเป็นการจำคำถามมาแล้วพิมพ์ใหม่ ซึ่งก็จะต้องนำไปตรวจสอบความชัดเจนทั้งหมด ว่ามีการทุจริตหรือไม่ ส่วนแผนประทุษกรรมจะเหมือน หรือ เชื่อมโยงกับการทุจริตสอบในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 หรือไม่นั้น ยังไม่สามารถยืนยันได้ 

 

แต่ยืนยันว่า กระบวนการออกข้อสอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความรัดกุมอย่างมาก ตั้งแต่การเรียกให้คณะกรรมการออกข้อสอบมาเก็บตัว โดยที่ไม่ให้ใช้เครื่องมือสื่อสาร และให้ออกข้อสอบคนละอย่างน้อย 10 ข้อ และจะมีคณะกรรมการเลือกข้อสอบไปแบ่งออกเป็น 4 ชุด 


จากนั้นจะส่งเข้าโรงพิมพ์ และมีคณะกรรมการจัดส่งข้อสอบไปยังสนามสอบ และมีคณะกรรมการกลางดูแลการจัดส่งไปแต่ละสนามสอบอีก โดยจะต้องตรวจสอบการบรรจุข้อสอบก่อนเปิดใช้ทุกครั้ง ซึ่งขั้นตอนดังกล่าว ถือว่ามีคณะกรรมการหลายฝ่าย และหลายชุด ทำให้ยากต่อการทุจริต


พล.ต.ท.นิรันดร กล่าวอีกว่า ส่วนผู้เข้าสอบก็จะต้องแต่งกายชุดกีฬาเข้าสอบ และห้ามนำเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดเข้าห้องสอบ ขณะที่มีการทุจริต ยอมรับว่าอาจจะมีช่องโหว่บาง

 

ส่วนที่ทำให้มีการลักลอบนำกระดาษคำตอบเข้าไป เนื่องจากมีผู้เข้าสอบจำนวนมาก ซึ่งคณะกรรมการก็จะนำไปพิจารณาแก้ไขในอนาคต รวมทั้งจะดำเนินการกับตำรวจที่เข้าไปร่วมทุจริตทั้งทางวินัย และอาญาด้วย