วันนี้ ( 13 ธ.ค.65 ) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ น.ส.วทันยา บุนนาค กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2565 โดย น.ส.วทันยา พร้อมด้วย นายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่นกรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และรักษาการประธานกรรมการบริหาร บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) คู่สมรส ซึ่งเพิ่งจดทะเบียนสมรส เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2565 รวมทั้งบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 536,032,740 บาท หนี้สิน 126,439,294 บาท
แบ่งเป็นทรัพย์สินในส่วนของ น.ส.วทันยา 240,075,840 บาท ประกอบด้วย เงินสด 4,200,000 บาท เงินฝาก 2,071,816 บาท เงินลงทุน 7 รายการ มูลค่ารวม 11,736,412 บาท ส่วนใหญ่เป็นเงินลงทุนในกองทุนเปิด
เงินให้กู้ยืม 45,362,249 บาท โดยระบุชื่อผู้กู้คือ นายภควันต์ วงษ์โอภาสี น้องชายของ น.ส.วทันยา ที่ดิน 4 รายการ มูลค่ารวม 32,077,500 บาท โดยอยู่ในพื้นที่บางกะปิ 3 โฉนด พื้นที่บึงกุ่ม 1 โฉนด โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 4 รายการ มูลค่ารวม 111,206,460 บาท โดยรายการที่มูลค่าสูงสุดแจ้งว่าเป็นห้องชุดเพนท์เฮ้าส์ แขวงคลองตันเหนือ 92,000,000 บาท
นอกนั้นเป็นห้องชุด ทาวน์เฮ้าส์ และบ้านเดี่ยว ยานพาหนะ 2 รายการ มูลค่ารวม 2,818,900 บาท โดยเป็นรถจักรยานยนต์ 1 คัน และรถยนต์ Volkswagen 1 คัน สิทธิและสัมปทาน 10,173,084 บาท ส่วนใหญ่เป็นสิทธิในกรมธรรม์ประกันภัย กองทุนผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา และที่น่าสนใจคือสิทธิในสมาชิกแปซิฟิกคลับ ซิตี้ (ไม่แจ้งมูลค่า) ทรัพย์สินอื่น 20,429,372 บาท ส่วนหนี้สินแจ้งว่าเป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 45,149,407 บาท
ขณะที่ทรัพย์สินในส่วนของ นายฉาย คู่สมรส 285,301,840 บาท ประกอบด้วย เงินสด 250,000 บาท เงินฝาก 5,182,208 บาท เงินลงทุน 11 รายการ มูลค่ารวม 4,178,925 บาท ส่วนใหญ่เป็นเงินลงทุนในกองทุนเปิด
ที่ดิน 3 รายการ มูลค่ารวม 117,565,000 บาท โดยอยู่ในพื้นที่บางกะปิ 2 โฉนด พระโขนง 1 โฉนด โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 3 รายการ มูลค่ารวม 8,736,620 บาท โดยเป็นห้องชุด บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ ยานพาหนะ 4 รายการ มูลค่ารวม 11,998,000 บาท
ที่น่าสนใจคือ รถยนต์ Mercedes Benz ทะเบียน ฉบ 999 1 คัน มูลค่า 2,068,000 บาท รถยนต์ Lexus 1 คัน มูลค่า 5,500,000 แจ้งว่าได้มาเมื่อ 24 เม.ย.2564 สิทธิและสัมปทาน 7,525,666 บาท ส่วนใหญ่เป็นสิทธิในกรมธรรม์ประกันภัย กองทุนผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา และสิทธิในสมาชิกแปซิฟิกคลับ ตลอดชีพ (ไม่แจ้งมูลค่า) ทรัพย์สินอื่น 129,865,420 บาท
ส่วนหนี้สิน 81,289,886 บาท แบ่งเป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 15,048,957 บาท หนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 3,240,929 บาท หนี้สินอื่น 63,000,000 บาท ระบุชื่อเจ้าหนี้ คือ นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) บิดาของ นายฉาย นอกจากนั้น ยังแจ้งว่า บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สินเป็นเงินฝาก และสิทธิและสัมปทาน รวม 10,655,058 บาท
ทั้งนี้สำหรับทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจ อาทิ พระเครื่องหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ 18,150,000 บาท พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ 45,200,000 บาท พระเครื่องซุ้มกอ 10 ล้านบาท พระพุทธรูปอู่ทอง หน้าหนุ่ม 20,000,000 บาท พระพุทธรูปปางลีลา สุโขทัย 8,000,000 บาท หลวงปู่ทวดเนื้อว่าน วัดช้างไห้ 1,000,000 บาท
ทั้งนี้ น.ส.วทันยา แจ้งว่า มีรายได้ต่อปี 4,963,378 บาท ส่วนใหญ่มาจากดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืม 2,215,000 บาท เงินประจำตำแหน่ง 854,760 บาท
นอกจากนั้นยังแจ้งว่า ได้ทรัพย์สินจากมารดา 505,000 บาท ได้ทรัพย์สินจากคู่สมรส 353,000 บาท และยังมีรายได้จากการขายกองทุน 429,137 บาท ส่วนนายฉาย แจ้งว่ามีรายได้ต่อปี 26,829,714 บาท ส่วนใหญ่มาจากเงินประจำตำแหน่ง 14,800,000 บาท เงินได้จากมารดา 10,000,000 บาท เป็นต้น
ส่วนค่าใช้จ่ายต่อปี 15,845,100 บาท ส่วนใหญ่เป็นค่าผ่อนบ้านและค่าใช้จ่ายอุปโภคบริโภค ขณะที่ค่าใช้จ่ายคู่สมรส 35,086,229 บาท ส่วนใหญ่เป็นค่าผ่อนบ้านและค่าใช้จ่ายอุปโภคบริโภค ค่าผ่อนรถ ค่าท่องเที่ยว และเงินบริจาค นอกจากนี้ยังมีค่าเล่าเรียนบุตรต่อปี 2,220,000 บาท
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบทรัพย์สินของ น.ส.วทันยา และคู่สมรส เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 2562 ที่แจ้งว่า มีทรัพย์สินรวม 511,334,424 บาท หนี้สิน 82,280,019 บาท เท่ากับว่า น.ส.วทันยา และคู่สมรส มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 24,698,316 บาท หนี้สินเพิ่มขึ้น 44,159,275 บาท
นอกจากนี้ป.ป.ช.ยังเปิดเผยทรัพย์สิน นายนราพัฒน์ แก้วทอง กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2565 โดย นายนราพัฒน์ พร้อมด้วยนางอุมาพร แก้วทอง คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิน 1,547,196,953 บาท
แต่จากการตรวจสอบตามรายการทรัพย์สินที่แจ้ง พบว่า มีทรัพย์สินประมาณ 206,196,952 บาท หนี้สิน 6,392,586 บาท โดยแบ่งเป็นทรัพย์สินของ นายนราพัฒน์ 195,358,101 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 366,738 บาท เงินลงทุน 5,000,000 บาท เป็นหุ้นในบริษัทสหกรณ์สุราษฎร์ธานี จำกัด เงินให้กู้ยืม 149,000,000 บาท ระบุชื่อผู้กู้ น.ส.พัชราภรณ์ แก้วทอง น้องสาวนายนราพัฒน์
ที่ดิน 7 รายการ มูลค่า 25,142,500 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 7 รายการ มูลค่า 9,466,453 บาท ยานพาหนะ 1,059,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 2,182,410 บาท ทรัพย์สินอื่น 3,111,000 บาท หนี้สิน 5,892,586 บาท
ส่วนทรัพย์สิน นางอุมาพร คู่สมรส 8,119,901 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 366,738 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 765,650 บาท ยานพาหนะ 2,200,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 142,790 บาท ทรัพย์สินอื่น 4,924,500 บาท หนี้สิน 500,000 บาท สำหรับบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สินเป็นเงินฝาก และสิทธิและสัมปทาน รวม 2,718,950 บาท
สำหรับทรัพย์สินที่น่าสนใจของ นายนราพัฒน์ และ นางอุมาพร อาทิ พระเลี่ยมทองสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ฐานแซม มูลค่า 800,000 บาท พระเลี่ยมทองปิดตาหลวงปู่เอี่ยม 300,000 บาท พระเลี่ยมทองหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน 400,000 บาท สร้อยคอทองคำ 2 เส้น สร้อยข้อมือทองคำ
นาฬิกายี่ห้อ Chanel. Dior มูลค่า 250,000 บาท กระเป๋า Chanel มูลค่า 250,000 บาท กระเป๋า Dior มูลค่า 250,000 บาท สร้อยคอมรกตล้อมเพชร มูลค่า 1,200,000 บาท สร้อยข้อมือฝังเพชร เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม นายนราพัฒน์ แจ้งว่ามีรายได้ต่อปี 600,000 บาท รายจ่ายต่อปี 262,120 บาท นางอุมาพร แจ้งว่ามีรายได้ต่อปี 286,800 บาท รายจ่ายต่อปี 121,395 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเปรียบเทียบทรัพย์สินนายนราพัฒน์และคู่สมรส เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2565 ที่แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 197,258,364 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 4,868,560 บาท เท่ากับว่า นายนราพัฒน์และคู่สมรส มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 8,938,588 บาท หนี้สินเพิ่มขึ้น 1,524,026 บาท