ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้กล่าวแสดงความยินดีกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเป็นครั้งแรก
ส่วนกระแสข่าวที่ว่า พล.อ.ประวิตร จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ข่าวแต่อย่างใดซึ่งต้องไปดูในกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลเพราะตนเองไม่ทราบและไม่เกี่ยวข้อง ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการในเรื่องทางการเมืองที่จะว่ากันไป พร้อมยินดีกับทุกคน ยินดีกับ ส.ส.ใหม่ป้ายแดงทุกคน
"ก็ขอให้อยู่กันให้ครบ หลายคนอาจจะมีปัญหาบ้างอะไรบ้างก็แล้วแต่ท่าน" นายกรัฐมนตรี ระบุ
กรณีมีข่าวพรรคเพื่อไทย ยอมให้พรรคก้าวไกลเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเพราะมองว่าเป็นเรื่องภายในของพรรคที่ได้คะแนนเสียงเป็นอันดับต้น ๆ ที่ต้องไปตกลงกันเอง ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติจะโหวตประธานสภาฯ ไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้รอขั้นตอนที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ก่อน อย่าไปพิจารณาไกลเพราะพรรครวมไทยสร้างชาติไม่ได้มีคะแนนเสียงมาก มีเพียง 36 เสียง ต้องฟังพรรคใหญ่ ๆ คุยก่อน
ส่วนกระแสข่าวกรณีพรรคขั้วรัฐบาลเดิมจะจับมือกับพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อประธานสภาฯ แข่งกับพรรคก้าวไกลนั้น พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
"ก็เป็นข่าวไป ข่าวโคมลอย โคมจม ก็ว่ากันไป ส่วนจะมีโอกาสหรือไม่ ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้คุยกันก็ให้เขาดำเนินการตามขั้นตอนก่อน วันหน้าฝ่ายการเมืองก็ว่ากันเอง"
อย่างไรก็ดี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยากให้จัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุดเพราะปัญหามีมากที่ต้องดำเนินการต่อเนื่อง วันนี้ก็สุดแล้วแต่รัฐบาลใหม่จะบริหารต่อไปอย่างไร
วันนี้ที่คุยกันเยอะก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์ก็คุยเรื่องที่เป็นปัญหาของประชาชนที่ต้องแก้ปัญหาเร่งด่วน และจะแก้ไขปัญหาอย่างไรระหว่างที่เป็นรัฐบาลรักษาการ เพราะติดกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 169
โครงการไหนที่จะต้องมีการอนุมัติใช้จ่ายงบประมาณ มีปัญหาหมด ต้องหามาตรการที่เหมาะสมดำเนินการ การตั้งรัฐบาลหากช้าเกินไปก็จะมีปัญหาต่อไปเรื่อย ๆ การเตรียมข้อมูลเพื่อส่งมอบให้รัฐบาลใหม่ก็ต้องมีทุกกระทรวงก็เตรียมส่งต่อ
สำหรับการเตรียมความพร้อมรับมือการโหวตประธานสภาฯ หากมีความวุ่นวายเกิดขึ้นนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย มีกฎหมายบ้านเมืองอยู่แล้ว ทั้งนี้ ไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายขึ้นเพราะจะส่งผลเสียกับประเทศ
"ไม่อยากให้เกิดขึ้น ไม่ดีกับประเทศ ไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ตาม ลงบนถนนไม่ควรอยู่แล้ว ในช่วงสถานการณ์แบบนี้เรื่องเศรษฐกิจ ความขัดแย้ง เรื่องต่าง ๆ วุ่นวายอยู่
ถ้าเราสามารถดำเนินการได้ตามรัฐธรรมนูญ สงบ สันติ ก็จบ ไม่อยากให้มีการปลุกปั่นกัน ข้างใดข้างหนึ่งทั้งสิ้น ไม่ว่าจะข้างผม หรือข้างใครก็แล้วแต่และผมไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใคร" นายกรัฐมนตรี กล่าว
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เดินสายพบประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ