กำลังจะเปิดรัฐสภาแล้ว จะมีรัฐพิธีไม่เกินวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 พรรคก้าวไกลหาเสียงไว้ว่าจะเสนอร่างกฎหมาย 45 ฉบับภายใน 100 วันแรก หรือทันทีที่เปิดรัฐสภา โดยจะเสนอในนามสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หนึ่งในนั้นคือร่างกฎหมายแก้ไขมาตรา 112
อาจจะทำให้พอเข้าใจเหตุผลของผู้คนในฟากฝั่งที่เห็นต่างและคัดค้าน
ตามหลักการที่พรรคก้าวไกลนำเสนอในการหาเสียง ปรากฎทั้งข้อความและแผ่นภาพ ประกอบกับร่างกฎหมายที่เคยยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎรเมื่อปี 2562 แต่ไม่ได้รับการบรรจุ จะพบว่าไม่ใช่การแก้ไขกฎหมายทั่วไปมาตราหนึ่งเท่านั้น หากแต่เป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่จะกระทบทั้งระบอบและระบบ
สรุปโดยภาพรวมได้ว่าเป็นการลดระดับการคุ้มครองสถานะอันเป็นที่เคารพสักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้ขององค์พระมหากษัตริย์ลงมาเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 90 ปีนับตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2475 จากการคุ้มครองเด็ดขาด เป็นการคุ้มครองอย่างมีเงื่อนไข มีทั้งบทยกเว้นความผิด บทยกเว้นโทษ และบทจำกัดผู้ร้องทุกข์
นี่คือประเด็นหลักที่จะกระทบระบอบ
เป็นการเปลี่ยนแปลงระบบการคุ้มครองบุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย โดยเฉพาะศาลหรือผู้พิพากษาขณะพิจารณาหรือพิพากษาคดี รวมทั้งบุคคลธรรมดา โดยเป็นการลดระดับการคุ้มครองบุคคลทุกประเภทลงจากเดิมด้วยการกำหนดโทษใหม่ที่ต่ำลงมาก ส่วนใหญ่จะเหลือแค่โทษปรับ ยิ่งถ้าในอนาคตนำระบบการคิดโทษปรับตามฐานะทางเศรษฐกิจ (Day-fine) มาใช้ในระบบกฎหมายไทย ผู้กระทำความผิดทีีมีรายได้นัอยหรือไม่มีรายได้จะยิ่งมีข้อต่อสู้ให้ได้รับโทษน้อยลงไปอีก
พรรคก้าวไกลจัดร่างกฎหมายแก้ไขมาตรา 112 อยู่ในกลุ่มคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ
แน่ละว่าด้านหนึ่ง สิทธิเสรีภาพของคนที่วิพากษ์วิจารณ์บุคคลทุกระดับได้รับการคุ้มครองเพิ่มขึ้นแต่ในด้านตรงข้าม สิทธิเสรีภาพบุคคลทุกระดับที่ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายรวมทั้งบุคคลธรรมดาที่จะไม่ถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่เป็นธรรมกลับได้รับการคุ้มครองลดลงอย่างมีนัยสำคัญ