วันที่ 26 มิถุนายน 2566 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีที่ นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา ( ส.ว.) ยื่นฟ้องนายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในข้อหาหมิ่นประมาท เนื่องในการอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยรังสิมันต์ได้อภิปรายในหัวข้อ เช็กบิลไทยดำ-จีนเทา โดยมีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นประมาทนายอุปกิต กล่าวหานายอุปกิตเกี่ยวข้องขบวนการค้ายาเสพติดเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท
นายอุปกิต กล่าวว่า วันนี้ตนเองเดินทางมาศาลในคดีที่ได้ยื่นฟ้องในรังสิมันต์ โรม ซึ่งในชั้นไต่สวนมูลฟ้องได้เตรียมพยานเบิกความในศาลจำนวน 2 ปากคือตนเอง และบุคคลที่ 3 แต่ศาลจะให้ใช้ระยะเวลาในการไต่สวนพยานกี่ปากนั้นยังไม่ทราบ
ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม พร้อมทนายความ เดินทางมาศาล พร้อมกับเปิดเผยว่า วันนี้ตนเองมาในคดีที่ นายอุปกิต หรือที่รู้กันในชื่อ ส.ว.ทรงเอ ได้ฟ้องคดีจากการที่ตนเองอภิปรายในสภา โดยวันนี้เป็นนัดไต่สวนมูลฟ้อง ซึ่งจริงๆกำหนดนัดเดิมเมื่อวันที่ 1 พ.ค.2566 และเลื่อนมาเพราะตัวผู้ฟ้องขอเลื่อน
วันนี้ยังไม่แน่ใจในขั้นตอนกระบวนการอแต่น่าจะไม่เลื่อนแล้ว ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องทางเราต้องดูว่า สุดท้ายในการสืบพยานที่จะไปสู่ขั้นตอนของการไต่สวนมูลฟ้องจะเป็นยังไงและไม่ทราบว่าสุดท้ายศาลจะรับฟ้องหรือไม่ วันนี้คงจะได้มีความคืบหน้า
ขณะที่ ทนายความของ นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า การไต่สวนมูลฟ้อง ศาลจะฟังพยานของฝ่ายโจทก์ว่าคดี มีมูลพอที่จะรับฟ้องไว้พิจารณาหรือไม่โดยพิจารณาจากพยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ ถ้ามีมูลก็จะประทับฟ้องไว้พิจารณา แต่ถ้าไม่มีมูลก็พิพากษายกฟ้อง
ในส่วนของผู้ที่ถูกฟ้องคดีนั้น ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ไม่จำเป็นต้องเดินทางมาด้วยตนเอง แต่สามารถแต่งตั้งทนายความมาซักพยานฝ่ายโจทก์ได้