เปิดเบื้องหลัง กกต.ถกส่งศาลรธน.ฟันพิธา “ปกรณ์” ค้านหวั่นด้อมส้มรุมถล่ม

12 ก.ค. 2566 | 10:00 น.
อัพเดตล่าสุด :12 ก.ค. 2566 | 10:03 น.

เปิดเสียงโหวต 4 กกต. ดันส่งศาลรธน.ฟัน “พิธา”ถือหุ้นสื่อไอทีวี ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. เผย “ปกรณ์ มหรรณพ”ค้าน หวั่นด้อมส้มรุมถล่ม

วันนี้ (12 ก.ค.66 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย  ว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของ นายพิธา   ลิ้มเจริญรัตน์  ส.ส.บัญชีรายชื่อและแคนดิเนตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล จากเหตุมีชื่อถือครองหุ้นสื่อบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้นนั้น 

มีรายงานว่า บรรยากาศในการพิจารณาเรื่องดังกล่าวของที่ประชุม กกต. เป็นไปอย่างเคร่งเครียด ซึ่ง กกต.ทั้ง 5 คน เห็นตรงกันว่า บริษัทไอทีวีฯ ประกอบกิจการเป็นสื่อ หากมีการถือหุ้นก็จะเข้าข่ายขัดคุณสมบัติการเป็นส.ส. จำเป็นต้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 

ทั้งมีการพูดถึงว่า หากกกต.ไม่ส่งศาลธรรมนูญในวันนี้ ก่อนที่รัฐสภาจะมีการโหวตนายกรัฐมนตรี อาจจะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ขัดกฎหมาย มาตรา 157 จึงมีการลงมติเห็นชอบด้วยคะแนน 4 ต่อ 1 เสียง

โดย 4 เสียงประกอบด้วย 1. นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. 2. นายฐิติเชฎฐ์ นุชนาฏ 3.นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ และ 4. นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ 

ส่วน 1 เสียง ที่ไม่เห็นด้วยกับการส่งศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ คือ นายปกรณ์ มหรรณพ โดยนายปกรณ์ แสดงความกังวลต่อที่ประชุมว่า การที่กกต.ส่งเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในช่วงนี้ อาจจะถูกมวลชนมองว่า การกระทำของ กกต.ไม่เหมาะสม  และควรจะต้องมีสอบประเด็นอื่นเพิ่มเติม อาทิ ความเป็นเจ้าของหุ้นไอทีวี ว่า นายพิธา เป็นเจ้าของหุ้นจริงหรือไม่ให้ชัดเจนกว่านี้ แม้ทุกคนจะเห็นตรงกันว่าไอทีวีเป็นธุรกิจสื่อก็ตาม

สำหรับ กกต.ที่ลงมติเรื่องนี้มีเพียง 5 คน เนื่องจาก นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี และนายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย พ้นจากตำแหน่งไปก่อนเพราะมีอายุครบ 70 ปี