สังคมอาจเกิดความสงสัยว่า เพราะเหตุใด พรรคก้าวไกล จึงคงและเน้นย้ำเจตนารมณ์ทางการเมืองในการแก้ไขมาตรา 112 โดย ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Chaiyan Chaiyaporn" ได้แชร์ความเห็นของ นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ ซึ่งเขียนเรื่อง "การเมืองของก้าวไกล" ซึ่งมีใจความดังนี้
เทคนิคของการใช้การเมืองแบบมวลชน คือ ต้องหาเป้าหมายสักอย่างหนึ่งมาให้ผู้คนร่วมกันเกลียดชังว่า เป็นต้นตอของความงี่เง่าเฮงซวยของบ้านเมือง
เป้าหมายนี้ต้องดูมีฤทธิเดช ...ได้มากจริง เช่น ถ้าเป็นคอมก็วาดเป้าหมายเป็นนายทุน เป็นนาซีก็วาดเป็นยิว เป็นชาตินิยมก็เป็นจักรวรรดิ์นิยมฃ
การเมืองของก้าวไกลเดินมาทางนี้แล้วเลือกเอาสถาบันเป็นปีศาจของความเกลียดชัง ทำให้ดูขลังจึงลากเป็นมรดก 2475 คนเราพอเกลียดร่วมกันมาก ๆ ก็เกิดเป็นพวกเป็นม็อบไปในที่สุด
การเลิกไม่พูด ไม่ชูแก้ 112 จะทำให้ขาดการชี้ปีศาจไปในทันที พลังก้าวไกลจะอ่อนยวบลงเลย ให้เขาเลิกไม่ได้เด็ดขาดเพราะเป็นตัวตนของเขา
นี่คือเหตุผลที่ก้าวไกล ไม่มีวิสัยทัศน์ของอนาคตมาโชว์จริง ๆ มีแต่ความเกลียดชังร่วมในกองทัพและสถาบันแล้วแถมของชำร่วย ทางปัจเจกชนนิยม ให้กลุ่มต่าง ๆ เป็นพิเศษ ทั้งเพศพิเศษ กะ...เสรี เลิกเครื่องแบบนักเรียนฯ
การเมืองวันนี้เดิมที ระบาดด้วยโลภะ จนเกิดนิสัยประชานิยมที่ก้าวไกลมาเติมใหม่ ใหม่จริงแต่ไม่ใช่ประชาธิปไตยแต่เป็นโมหะ สองตัวนี้ถึงจุดหนึ่งโทสะจะเกิดขึ้นในที่สุด