การประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา มีการพิจารณาให้ความเห็นชอบ นายพศวัจณ์ กนกนาก อดีตประธานศาลอุทธรณ์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง กรรมการป้องกันและป้องกันการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แทน พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง ป.ป.ช. ที่พ้นตำแหน่งเนื่องจากครบวาระดำรงตำแหน่ง 9 ปี
การสรรหากรรมการป.ป.ช. ครั้งนี้ใช้เวลาดำเนินการมากกว่า 1 ปี เนื่องจากการสรรหาในรอบแรก กรรมการสรรหา ซึ่งมีประธานศาลฎีกา เป็นประธานสรรหา เสนอชื่อ นายอารยะ ปรีชาเมตตา แต่ไม่ได้รับความเห็นชอบตามมติของวุฒิสภา เมื่อ 1 สิงหาคม 2565 ดังนั้น การพิจารณาชื่อของ “พศวัจณ์” จึงถือเป็นครั้งที่ 2
สาเหตุที่ต้องใช้เวลาสรรหาจนถึงเสนอชื่อให้วุฒิสภา (สว.) ลงมติยาวนานถึง 1 ปี 6 วัน เพราะกรรมการสรรหาต้องใช้เวลาสรรหาในกระบวนการ ถึง 3 รอบ ครั้งแรก เมื่อ 23 กันยายน 2565 , ครั้งสอง เมื่อ 10 มกราคม 2566 แต่ทั้ง 2 ครั้งนั้น ปรากฏว่า ไม่มีผู้ใดได้รับคะแนนเสียงเป็นจำนวน 2 ใน 3 ของกรรมการสรรหาที่มีอยู่ ทำให้ต้องสรรหาใหม่เป็นรอบที่ 3 เมื่อ 14 มีนาคม 2566
และมติของกรรมการสรรหา 7 ใน 9 คนที่ทำหน้าที่ลงมติให้ นายพศวัจณ์ ได้รับการเสนอชื่อ และส่งมาให้วุฒิสภาพิจารณา เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2566 ก่อนวุฒิสภาลงมติเห็นชอบ จากนั้นจะนำรายชื่อเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป
“พศวัจณ์ กนกนาก” เกิดวันที่ 8 ต.ค. 2499 อายุ 67 ปี จบนิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) มหาวิทยาลัยรามคำแหง (มร.), เนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา, นิติศาสตรมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย
ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประ ศาสนศาสตร์ มร., ประกาศนียบัตรการอบรมหลักสูตรผู้บริหาร-วิทยาลัยการยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรมกระบวนการยุติธรรมระดับสูง รุ่นที่ 8
“พศวัจณ์” ผ่านการดำรงตำแหน่งสำคัญ ทั้งอธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ศาลแพ่งกรุงเทพใต้, ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 6, ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ศาลฎีกา
ประธานแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจในศาลฎีการองประธานศาลฎีกา, ประธานศาลอุทธรณ์ และ ล่าสุด ดำรงตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช.