'เดชอิศม์ ขาวทอง'ไม่กังวลถูกขับออกจากพรรคปมโหวตนายกฯสวนมติพรรค

29 ส.ค. 2566 | 09:54 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ส.ค. 2566 | 10:15 น.

"เดชอิศม์" แจงปมโหวตเศรษฐานายกฯ หวังประเทศเดินหน้า ยกเหตุปี62 ปชป.เห็นต่างร่วมรัฐบาลประยุทธ์ สุดท้าย 'ชวน' นั่งประธานสภาฯ 'สาธิต' คว้าเก้าอี้รมช.สาธารณสุข ถึงเวลาพรรคต้องนับหนึ่งใหม่

นายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหลังรับมอบดอกไม้จากตัวแทนพรรค 4 ภาค เพื่อให้กำลังใจกรณีที่ มีการยื่นให้ตรวจสอบ 16 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ลงมติ เห็นชอบ ให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ที่เป็นการสวนต่อมติพรรคว่า พรรคประชาธิปัตย์แปลกตรงที่เสียงส่วนน้อยจะดังกว่าเสียงส่วนมาก และอดีตสส.หรือสส. สอบตกจะมีเสียงดังกว่า ส.ส สอบได้ คนที่อยู่นอกพรรคเสียงดังกว่าคนในพรรค เราจึงมาบวชทีหลังโดยไม่ได้ตรวจสอบว่าคะแนนผ่านหรือไม่ผ่าน แต่เหตุผลที่ลงมติเพราะอยากให้ประเทศเดินหน้าได้

ส่วนที่นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พูดว่าไปขอร่วมรัฐบาลไม่อายเขาหรือ ยืนยัน เป็นครั้งที่ร้อย ว่า ตัว ส.ส. ไม่มีอำนาจในการเข้าร่วมรัฐบาล กรรมการบริหารพรรคตัวบุคคลก็ไม่มีอำนาจ หลักของประชาธิปัตย์คือต้องเทียบเชิญมา ประชุมร่วมกัน แล้วลงมติ เช่นการเลือกตั้งเมื่อปี 62 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหัวหน้าพรรค และนายสาธิต ปิตุเตชะได้คัดค้าน ไม่อยากร่วมรัฐบาลถกเถียงกัน 1 วัน 1 คืน สุดท้ายจบตรงลงมติ 61 คนขอให้ร่วมรัฐบาลเพื่อให้เดินหน้าไปได้ ส่วนอีก 16 คนเห็นว่ามีคนร่วม แต่ผลสุดท้ายนายสาธิตก็มารับตำแหน่งในรัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายชวนรับตำแหน่งประธานสภาฯส่วนที่บอกว่าใครไม่โหวตใครรับไม่ได้แล้วออกไปหมายถึงนายอภิสิทธิ์ไม่ได้ตั้งใจมาพูดในวันนี้เพื่อขับไล่ใคร จึงขออย่านำเรื่องอื่น มาโยงใยเพื่อทำร้ายให้คนเกลียดชัง แล้วคนที่พูดดูดี

นายเดชอิศม์ ย้ำว่า จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านร้อยเปอร์เซ็นต์ และขอให้ดูบทบาทฝ่ายค้านว่าค้านจริงอย่างไร พร้อมขออย่ามองคนอื่นต่ำตัวเองสูง อยากฝากถึงคนประชาธิปัตย์ให้ทุกคนมองมาที่พรรค ทั้ง 360 องศาโดยเฉพาะเรื่องที่ได้จำนวนส.ส. ลดลง นโยบายโดนใจประชาชน ตรงต่อความต้องการของประชาชนหรือไม่ ถ้าไม่ต้องปรับต้องแก้ เต้องดูผลการเลือกตั้งในจังหวัดของตัวเอง เขตตัวเอง ต้องดูตัวเองให้ชัดอย่าฟังลิ่วล้อมากเกินไป ผู้ใหญ่บางคนที่ไม่ใช้สติและคิด และกาฝากในประชาธิปัตย์ก็มี เป็นใหญ่เป็นโตเพราะเลียแข้งเลียขาผู่ใหญ่ พร้อมเห็นว่าประชาธิปัตย์ต้องกลับมาเริ่มคิดและนับหนึ่งใหม่ อย่าหลงงมงายกับกาฝากบางคนอาจจะโดนติดคุกที่มีเรื่องมีคดี เราอย่าคิด ว่าเป็นพรรคอื่นแล้วเราไม่ชอบจะเป็นคนชั่วหมด เป็นประชาธิปัตย์และต้องคนดีทั้งหมด เพราะประชาธิปัตย์มีทั้งเคยติดคุกคุกความจริงเท่านั้นที่จะพาให้ประชาธิปัตย์ เดินไปข้างหนิาถ้าไม่ยอมรับความเป็นจริงยากมากที่ชนะการเลือกตั้งสมัยหน้า

นายเดชอิศม์ ยังเล่าย้อนว่า ตนรอคอยมา 17 ปีเต็ม ๆที่จะลงสมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ก่อนหน้านั้นมีการทำโพลแข่งกันในเขต 1 สงขลา นายเจือ ราชสีห์โดยมีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นหัวหน้าพรรค ตนเสนอตัวคิดว่าจะทำโพลแข่งกัน แต่อยู่ๆนายบัญญัติประกาศนายประพร เอกอุรุ เป็นผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 สงขลา ทำให้ตนต้องย้ายไปพรรคไทยรักไทย มาปี 2562 มีผู้สมัครประสงค์อยู่ 3 ท่าน และตนได้ลงเพราะมาจากการทำโพล ต้องขอบคุณนายอภิสิทธิ์ที่ให้โอกาสและผลเลือกตั้งตนชนะที่หนึ่งของจังหวัดสงขลา 

\'เดชอิศม์ ขาวทอง\'ไม่กังวลถูกขับออกจากพรรคปมโหวตนายกฯสวนมติพรรค

 

 

นายเดชอิศม์ กล่าวว่า มาวันนี้เขาจะดูถูกเหยียดหยามตนอย่างไร แต่อยากบอกว่าเป็นครั้งแรกที่คนใต้ให้โอกาสสูงสุด เป็นครั้งแรกที่คนสงขลาให้โอกาสครอบครัวเลือกทั้งตน ภรรยา และลูก มาเป็น ส.ส.นี่คือเกียรติที่เขาให้กับครอบครัวตน นี่คือความตั้งใจของตนที่จะไปแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน เขาออกไปตากแดดตากฝนไปเลือก ส.ส.ไม่นั่งล้มมวยไม่มาชกภายใต้เงื่อนไขของประชาชน จะมาเป็นผู้แทนทำไม วันนี้การต่อสู้ของเป้าหมายคือการต่อสู้เพื่อประชาชนทั้งประเทศ จึงอยากฝากว่านอกจากไม่ทรยศประชาชนแล้ว ต้องสร้างความเจริญให้กับประชาชนด้วย ตนพูดจาแต่คำหวาน จนประชาชนเบื่อๆไปเรื่อย ๆ ไม่ทำอย่างแน่นอน

สำหรับเหตุผลที่โหวตให้นายเศรษฐาเป็นนายกฯ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า อยากให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ ตอนนั้นคิดว่าน่าจะไม่ผ่าน  แต่อยากให้ประเทศเดินไปข้างหน้า วันนี้ความเดือดร้อนของประชาชนมาก นักลงทุนจากต่างประเทศไม่กล้ามาลงทุน นักท่องเที่ยวบ้านตนติดชายแดนมาเลยเซีย เพราะขาดความมั่นใจที่มาเที่ยวประเทศไทย วันนี้เราประกาศชัดเจนเราเป็นฝ่ายค้านอย่างมีศักดิ์ศรีไม่ต้องมากังวลเราเลย ให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ ยืนยันไม่มีผลประโยชน์ในการโหวตเลย ข่าวที่ออกว่าตนไปเจรจากับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นั้นไม่ได้เจอกับนายภูมิธรรมเลย ตั้งแต่เป็นส.ส.มาจนถึงวันนี้ ไม่มีโอกาสพบนายภูมิธรรมตัวเป็นๆเลย 


ส่วนกรณีที่มีสมาชิกพรรคยื่นให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบลงโทษ16 ส.ส.ที่โหวตนายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือว่าขัดต่อมติพรรค นายเดชอิศม์กล่าวว่าเรายอมรับได้หมดเพราะตนมาจากประชาชน คือหนึ่ง หากประชาชนบอกให้ตนอยู่พรรคนี้ ตนจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขให้พรรคนี้ดีขึ้น สองหากเห็นว่าตนไม่ควรอยู่พรรคนี้ก็พร้อมที่จะไป แต่สามถ้าไปแล้วยังไม่พอให้ตนเลิกเล่นการเมืองก็ได้ แต่ต้องถามประชาชนเพราะเขามีความคาดหวังในตัวตนและพรรคประชาธิปัตย์ ข้อหนึ่งข้อสองทำได้ แต่ข้อสามทำไม่ได้แน่เพราะต้องถาม ประชาชนก่อน

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ยืนยันใช่หรือไม่ว่าการโหวตสวนมติพรรคเพราะต้องการทำให้ประเทศเดินหน้า นายเดชอิศม์กล่าวว่า "ยืนยันต่อหน้าพระแม่ธรณีบีบมวยผม เราไม่มีเงื่อนไขและผลประโยชน์ใดๆเลย"หลังจากโหวตแล้วเราไม่ได้ไปพบใครเลยนั่นคือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะเราบอกแล้วว่าการร่วมรัฐบาลมี3ข้อ ไม่ว่าใครก็ตามไม่ว่าจะยิ่งใหญ่มาจากไหน หากอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ต้องได้รับเทียบเชิญและต้องประชุมร่วมกันแล้วมีมติออกมาซึ่ง ส.ส.ทั้ง16 คนได้ไปพูดคุยกันหน้าห้องประชุมว่าจะโหวตให้นายเศรษฐา แต่ก่อนหน้านั้นคุยกันอย่างไม่เป็นทางการ วันนั้นหลายคนบอกโหวตให้เถอะ โดยเสนอในที่ประชุม ส.ส. นายชวน หลีกภัน สส.บัญชีรายชื่อก็คงได้ยิน และมีหลายคนบอกงดออกเสียง แต่คนที่บอกว่าไม่เห็นด้วยมีนายชวนคนเดียว

ส่วนกังวลหรือไม่หากพรรคจะมีมติออกมาให้ขับ16 ส.ส. นายเดชอิศม์ กล่าวว่าไม่กังวลเพราะหลักของประชาธิปไตย เสียงส่วนใหญ่ว่าอย่างไรก็ต้องยอมรับมติ

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่ายืนยันใช่หรือไม่ว่าการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีมติงดออกเสียงในการโหวตนายเศรษฐา  นายเดชอิศม์กล่าวว่าตนคิดว่าเป็นอย่างนั้นเพราะนายจุรินทร์เกรงใจนายชวน  เพราะหากโหวตออกมาแล้วจะเป็น 1 ต่อ 24  เสียง จึงบอกว่าอย่าโหวตเลยให้เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. แต่หลายคนเข้าใจว่าเป็นมติเพราะด้วยความเกรงใจผู้ใหญ่ นั่นคือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยไม่มีมติออกมาว่างดออกเสียง เพราะถ้าเป็นมติต้องโหวตแข่งกันใน 3 แนวทางนั้น และเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมดูเหมือนเห็นด้วยกับการงดออกเสียง

ส่วนที่โฆษกที่ประชุมออกมาแถลงว่างดออกเสียงถือเป็นการแถลงผิดใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า โฆษกน่าจะเข้าใจเหมือนหลายคนวันนั้นว่าเป็นมติ เพราะเมื่อประชุมเสร็จทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันและเมื่อลงมติในที่ประชุมรัฐสภาทั้งนายชวน นายบัญญัติ  บรรทัดฐาน นายจุรินทร์ ไม่ได้โหวตเหมือนกัน เราจึงยิ่งมั่นใจว่าไม่ได้เป็นมติพรรค 

ขณะที่การโหวตเห็นชอบนายเศรษฐา แต่ไม่ได้ร่วมรัฐบาล ถือเป็นการโหวตให้ฟรีหรือไม่ นายเดชอิศม์กล่าวว่าไม่ถือว่าฟรี อย่างน้อยประเทศชาติก็ได้ประโยชน์ 

"เวลาเราเป็นฝ่ายค้านเราก็พูดได้เต็มคำว่า พวกผมให้โอกาสคุณไปใช้ แล้วประเทศชาติไม่เกิดประโยชน์ เราเล่นแรงนะคับ"

ส่วนตอนมาโหวตให้น ายเศรษฐา ได้เสียงเพียงพอแล้ว นายเดชดิศม์ กล่าวว่า ตอนนั้นไม่ได้เช็กเสียง เพราะกลุ่มเราลงมติตอนที่สภาโหวตไปได้แค่10% จึงไม่รู้ว่าเสียงพอหรือไม่  แต่เมื่อเสียงเขาครบแล้วมติเรายังอยู่เหมือนเดิมเราก็โหวตตามนั้น 

ส่วนตอนนี้มีตัวกลางมาประสานรอยร้าวบ้างหรือยัง เพราะรัฐบาลก็ได้ไปแล้ว  แต่หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ยังไม่ได้ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ยังไม่มีใครมาคุยเลยว่าจะเอาอย่างไร และ วันศุกร์นี้ตนจะกลับบ้านที่สงขลาแล้วจะมีประชาชนจำนวนมาก ตนยังให้คำตอบเขาไม่ได้เลยว่ากรรมการบริหารพรรคเราจะได้เมื่อไหร่.