(31 ส.ค. 66) "นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่ "พลเอกประวิตรวงษ์ สุวรรณ" รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ประกาศว่าจะลาออกจาก ส.ส. ว่า เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ โดยพลเอกประวิตร ถือเป็นบุคคลที่ ทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติมานาน
และไม่ทราบถึงเหตุผลที่พลเอกประวิตรลาออก ส่วนตัวไม่เคยพูดคุยกับพลเอกประวิตรโดยตรง มีเพียงพูดคุยผ่านโทรศัพท์บ้างเล็กน้อย ทั้งนี้หากตนได้เข้าทำเนียบรัฐบาล ก็จะเชิญพลเอกประวิตร มาร่วมรับประทานอาหาร
สำหรับวันนี้ได้ลงพื้นที่ "ตลาดเมืองไทยภัทร" เพื่อสอบถามในเรื่องค่าครองชีพ ทั้งราคาน้ำมัน ราคาแก๊สหุงต้ม ค่าไฟและต้นทุนในการประกอบอาหาร โดยคงจะต้องแก้ปัญหาที่รากฐาน คือราคาพลังงาน
ซึ่งหลังการหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ก็มีมาตรการที่ชัดเจน และในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก จะมีการประกาศนโยบายออกไป
แต่คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ก่อนในกรอบระยะเวลา 4 เดือน ตนเข้าใจว่า ประชาชนมีการคาดหวังตัวเลขในการลดราคาค่าไฟ ซึ่งตนก็ยืนยันจะพยายามทำอย่างสุดความสามารถ
ทั้งนี้ยอมรับว่าขณะนี้ยังไม่อยากที่จะเปิดเผยตัวแรกเพราะหากเกิดการคลาดเคลื่อนไปจากที่จะดำเนินการ อาจถูกต่อว่าภายหลังได้ ขอให้ใจเย็นๆ
ขณะที่การเดินทางมา ตลาดเมืองไทยภัทร โดยรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) นั้น พบปัญหาในเรื่อง การรองรับจำนวนผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วน ที่ยังมีตู้โดยสารไม่เพียงพอ ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดับสูง ได้บอกแล้วว่าจะมีการเพิ่มตู้โดยสาร
พร้อมกันนี้ตนยังได้มีการพูดคุยกับผู้โดยสาร ว่าการเดินทางเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งได้รับการตอบรับว่า ดีและสะดวกสบาย ราคาเหมาะสม
ส่วนเรื่องนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้าตลอดสาย 20 บาท ต้องขอไปพิจารณาก่อน ว่าถึงแม้จะเคยบอกว่าเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย แต่เราไม่ได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียว การที่มีพรรคร่วมรัฐบาลอีก 10 พรรค ก็ต้องไปพิจารณาในเรื่องของงบประมาณโดยรวมก่อน
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังเปิดเผยถึงความคืบหน้านโยบายกระเป๋าเงินดิจิตอล 10,000 บาทว่า ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เชิญ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มารับฟังความคิดเห็น ซึ่งก็ได้ดูรายละเอียดแล้ว และคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาติดขัด
ส่วนจะกำหนดวันออกโครงการได้เมื่อไหร่นั้น นายเศรษฐาตอบว่า คาดว่าจะสามารถออกนโยบายนี้ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2567
ทั้งนี้ระหว่างที่ได้ลงพื้นที่ นายกรัฐมนตรี ได้พบปะและสอบถาม นายตำรวจระดับชั้นผู้น้อย ถึงค่าครองชีพ แล้ที่ผ่านมาตน ได้มีการพูดคุยกับหลายฝ่าย โดยเฉพาะกับ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ได้ดูแลเรื่องหนี้สินของรัฐบาลที่ผ่านมา ก็ได้ฝากให้ช่วยดูแลเรื่องหนี้สิน ของข้าราชการตำรวจชั้นประทวนด้วย
โดยจะช่วยเหลือตำรวจชั้นผู้น้อย เช่นเดียวกันกับประชาชนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้หารือกับทางเจ้าหน้าที่ผู้บริหารของ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ถึงการพักหนี้เกษตรกร ซึ่งกำลังพิจารณาดูตัวเลขอยู่