ปิดฉาก 9 ปี “ประยุทธ์” บนบัลลังก์นายกฯ คนที่ 29

วันที่ 31 ส.ค. 2566 เป็นวันสุดท้ายที่ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี คนที่ 29 เข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล

โดย พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ด้วยรถเบนซ์ส่วนตัว สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ทันทีที่มาถึงได้ทักทายสื่อมวลชนพร้อมกล่าวว่า “สวัสดีจ๊ะ”  

ขอให้บ้านเมืองสงบสุข

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ถือฤกษ์เวลา 09.09 น. สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลตา ศาลยาย โดยผู้สื่อข่าวสอบถามว่าอธิฐานอะไรบ้าง  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ขอให้บ้านเมืองสงบ ร่มเย็น ทุกคนมีความสุข”

เมื่อถามว่าวันนี้ยังเป็นวันสุดท้ายที่ทำงานที่ทำเนียบฯ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เป็นอย่างนั้น ถึงมาลาวันนี้ เป็นมารยาท แต่ก็ยังทำงานอยู่

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่ารู้สึกอย่างไรกับการทำงานมา 9 ปี พล.อ.ประยุทธ์  ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว

จากนั้นก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ซึ้งเป็นที่ทำงานของนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “วันนี้ให้เป็นวันดีๆ และเป็นวันพระด้วย” ก่อนจะหันมายิ้มให้ผู้สื่อข่าวได้ถ่ายรูป

ในเวลา 13.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้สักการะพระพรหม บนตึกไทยคู่ฟ้า และถือฤกษ์เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 14.00 น. โดยส่งคืนรถประจำตำแหน่ง และของหลวงทั้งหมด ก่อนเดินทางออกจากทำเนียบฯ ด้วยรถยนต์ส่วนตัว

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่เข้าปฏิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาล ในฐานะนายกรัฐมนตรี คนที่ 29 ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2566 เป็นต้นไป แต่ยังคงรักษาการณ์อยู่จนกว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้ถวายสัตย์ปฎิญาณตน 

                               

บริหารประเทศ 3,285 วัน

สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกฯ ของไทย คนที่ 29 มาตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. 2557 จนถึงวันที่ 22 ส.ค. 2566 รวมระยะเวลา 9 ปี 7 วัน 

โดยเมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2557 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี “ประยุทธ์ 1”  

ทั้งนี้ หากนับระยะเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งในฐานะผู้บริหารสูงสุดของประเทศไทย 9 ปี คิดเป็น 3,285 วัน 78,840 ชั่วโมง4,730,400 นาที และ 283,824,000 วินาที

พล.อ.ประยุทธ์ เกิดเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2497 ปัจจุบันอายุ 69 ปี ชื่อเล่น ตู่ เคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ซึ่งก่อรัฐประหาร รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อ 22 พ.ค. 2557 

และเป็นคณะรัฐประหารที่ปกครองประเทศไทย ตั้งแต่ 22 พ.ค. 2557 จนถึง 16 ก.ค. 2562 เป็นระยะ 5 ปี 1 เดือน 3 สัปดาห์ 3 วัน

มีอำนาจต่อเนื่องยาวนาน

วันที่ 21 ส.ค. 2557 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) มีมติเอกฉันท์เลือกพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ สมัยแรก 

ภายหลังการเลือกตั้ง เมื่อ 24 มี.ค. 2562 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ได้รับคะแนนไว้วางใจเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา จึงได้เป็นนายกฯ อีกสมัย ในวาระที่สอง โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเมื่อ วันที่ 9 มิ.ย. 2562

ต่อมาเมื่อ  9 ม.ค. 2566 ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โดยได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ของพรรค และ ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีรายชื่อของพรรค

หลังการเลือกตั้ง เมื่อ 14 พ.ค. 2566 พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เก้าอี้ส.ส.เข้ามาเพียง 36 ที่นั่ง เป็นลำดับที่ 5 
ต่อมาเมื่อ วันที่ 11 ก.ค. 2566 พล.อ.ประยุทธ์ ได้ประกาศวางมือทางการเมือง และลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ 

และในวันที่ 22 ส.ค. 2566 ได้สิ้นสุดวาระการเป็นนายกฯ หลังมีพระบรมราชโองโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่

สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ ถือได้ว่าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่มีวาระต่อเนื่องยาวนานที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก จอมพล ป. พิบูลสงคราม แต่ถ้านับทุกวาระรวมกันจะเป็นอันดับ 3 รองจากจอมพล ป. และ จอมพลถนอม กิตติขจร

                               

“บิ๊กตู่”ตั้งผบ.ทบ. 6 คน 

ตลอดระยะเวลา 9 ปี ที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้า คสช. และดำรงตำแหน่งนายกฯ  2 สมัย มีสถิติหลายอย่างที่น่าสนใจ

พล.อ.ประยุทธ์ มีส่วนร่วมในการแต่งตั้งผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) รวมทั้งสิ้น 6 คน ประกอบด้วย

1. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. คนที่ 38 ดำรงตำแหน่งระหว่าง 1 ต.ค. 2557 - 30 ก.ย. 2558

2.พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. คนที่ 39 ดำรงตำแหน่งระหว่าง 1 ต.ค. 2558 - 30 ก.ย. 2559

3.พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. คนที่ 40 ดำรงตำแหน่งระหว่าง 1 ต.ค. 2559 - 30 ก.ย. 2561

4.พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. คนที่ 41 ดำรงตำแหน่งระหว่าง 1 ต.ค. 2561 - 30 ก.ย. 2563

5.พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. คนที่ 42 ดำรงตำแหน่งระหว่าง 1 ต.ค. 2563 - 30 ส.ค.2566    

และ 6. พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ. คนที่ 43 ดำรงตำแหน่งระหว่าง1 ต.ค. 2566 - ปัจจุบัน

โยก“5 พล.อ.”คุม สมช.

ทั้งนี้ ตลอดช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามามีอำนาจบริหารประเทศ ยามเมื่อมีปัญหาในการโยกย้ายแต่งตั้งนายทหารไม่ลงตัว ก็มักจะแก้ปัญหาด้วยการโยก “นายทหาร” ให้ไปคุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยช่วงที่ผ่านมามีถึง 6 คน ประกอบด้วย 

1.พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาฯ สมช. คนที่ 19 ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค.2558 - 30 ก.ย.2560 (อดีตผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา สังกัด กองบัญชาการกองทัพไทย)

2.พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขาฯ สมช. คนที่ 20 ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2560 - 30 ก.ย. 2562 (อดีต ผอ.สำนักนโยบายและแผนกลาโหม สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม)

3.พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาฯ สมช. คนที่ 21 ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2562 - 30 ก.ย. 2563 (อดีต รองปลัดกระทรวงกลาโหม)

4.พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาฯ สมช. คนที่ 22 ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2563 - 30 ก.ย. 2564 (อดีต รองผู้บัญชาการทหารบก)      

และ 5. พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาฯ สมช. คนที่ 23 ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2564 - 30 ก.ย. 2566 (อดีต เสนาธิการทหารบก)

“บิ๊กตู่”กับ iPhone 11 รุ่น    

อีกสถิติที่น่าสนใจ ในช่วง 9 ปี ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกฯ คือ มีวิวัฒนาการของโทรศัพท์มือถือ  iPhone ถึง 11 รุ่น ประกอบด้วย  

iPhone 6 เปิดตัวเมื่อ 19 ก.ย. 2557 (ค.ศ. 2014) , iPhone 6 เปิดตัวเมื่อที่ 28 ก.ย. 2558, iPhone 7 เปิดตัวเมื่อ 16 ก.ย. 2559, iPhone 8 เปิดตัวเมื่อ 22 ก.ย. 2560, iPhoneX เปิดตัวเมื่อ 3 พ.ย. 2560, iPhoneXR เปิดตัวเมื่อ 26 ต.ค. 2561

iPhone Xs เปิดตัวเมื่อ 21 ก.ย.2561,  iPhone 11 เปิดตัวเมื่อ 25 ก.ย. 2562, iPhone 12 เปิดตัว เมื่อ 27 ก.ย. 2563,  iPhone 13 เปิดตัว 14 ก.ย. 2564 และ  iPhone 14 เปิดตัว 14 ก.ย. 2565 (ค.ศ. 2022)