(4 ก.ย. 66) ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพูดคุยกับว่าที่ผู้บัญชาการเหล่าทัพเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา ว่า การพูดคุยกับ ว่าที่ ผบ.เหล่าทัพ เป็นบรรยากาศที่ดี ซึ่งเป็นการรับฟังความคิดเห็นกัน โดยเฉพาะเรื่องการลดช่องว่างระหว่างทหารกับประชาชน
รวมถึงการดำเนินการของกองทัพที่ได้ทำไปในช่วงที่ผ่านมา ส่วนรายละเอียดต่างๆ ขอให้รอให้มีการแถลงร่วมกันหลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าบริหารราชการอย่างเป็นทางการ
ขณะที่เรื่อง งบประมาณของกองทัพ ยังไม่ได้พูดกันถึงเรื่องนี้ เพียงแค่ไปฟังความคิดเห็นว่าทางกองทัพทำอะไรกันอยู่บ้าง รวมถึงการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ เนื่องจากตนยังใหม่จึงอาจจะไม่ทราบขอบเขตการทำงานของทหารมีอะไรบ้าง
โดยได้รับความอนุเคราะห์จากทุกท่านอธิบายอย่างละเอียด อาทิ พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ว่าที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ซึ่งจะเดินทางไปร่วมการประชุมสหประชาชาติ ในช่วงวันที่ 18 กันยายน เพราะต้องมีการหารือเรื่องความมั่นคงกับทางสหรัฐอเมริกาด้วย
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้ถามถึง การประชาสัมพันธ์ระหว่างกองทัพกับประชาชนมองว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่ได้มีปัญหาติดขัดอะไร เพียงแต่ที่ผ่านมา ทางกองทัพทำอะไรดีๆ ที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนหลายเรื่อง
รวมทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีตไม่มีการชี้แจงกันอย่างตรงไปตรงมา และทำให้แพร่หลายไปหลายๆ สื่อ ซึ่งน่าเสียดายหากปรับเรื่องการสื่อสารให้ดีขึ้น ประชาชนก็จะได้ทราบเรื่องดีๆ ที่ทางกองทัพทำ
ส่วนกระแสข่าวการทาบทาม พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. มาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ไม่ทราบและไม่เคยพูดคุยกันเรื่องนี้
"ไปพูดคุยรับฟังคิดเห็นเฉยๆ และรับทราบว่ากองทัพทำอะไรอยู่แล้วบ้าง เป็นการทำความรู้จักกัน เพราะไม่เคยเจอกับว่าที่ผู้บัญชาการเหล่าทัพ แต่ท่านติดตามการทำงานของเราตลอด ทั้งเรื่อง IUU และการประมง ผู้บัญชาการเหล่าทัพก็มีข้อมูลมานำเสนอ เมื่อแถลงนโยบายรัฐบาลแล้วก็จะมีการเข้าไปพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ จะมีตอนการทำงานร่วมกันออกมาอย่างชัดเจนอีกครั้ง" นายกรัฐมนตรีกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสการจับผิด และโจมตีเรื่องท่าทีและการแสดงออก ช่วงหารือกับวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง นายกรัฐมนตรี ตอบว่า อย่าใช้คำว่าจับผิดเลย หากภาพที่ออกไปแล้วบ่งบอกถึงความไม่พอใจ ก็ขอโทษด้วย แต่ไม่ได้เป็นการไม่พอใจอะไร
เพียงแต่พี่น้องผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างมีหลายประเด็น จึงต้องรีบจด ไม่ใช่นั้นจะไม่สามารถตอบคำถามเขาได้เพียงแต่เขียนไปแล้วหมึกหมด ก็บอกว่าหมึกหมด ผมไม่ได้ขว้าง เพียงแค่ปล่อยลงบนโต๊ะเท่านั้น
ทั้งนี้เข้าใจว่าการเป็นบุคคลสาธารณะ จะทำอะไรต่อไปนี้ก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น หากคนที่ดูอยู่อาจจะเข้าใจผิดได้ ก็กราบขอโทษและจะพยายามระมัดระวังตัวมากขึ้น