สรุปผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งแรกของรัฐบาล เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 ซึ่งถือเป็นการประชุม ครม.นัดพิเศษ ก่อนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยมีเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุม ครั้งแรก ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้ในการประชุมใช้เวลาเพียงแค่สั้น ๆ ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยมีเรื่องเสนอเข้ามาบรรจุในวาระการประชุมเพียงแค่ 6 เรื่องเท่านั้น ฐานเศรษฐกิจ สรุปรายละเอียดดังนี้
1.การจัดทำคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา
ครม.มีมติเห็นชอบร่างคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เสนอ และมอบหมายให้ สลค. รับไปประสานรวมทั้งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น การจัดพิมพ์ และแจกจ่ายเอกสารคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี ต่อรัฐสภาต่อไป
โดยกำหนดวันแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา วันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2566 พร้อมทั้งมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศแปลคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีเป็นภาษาอังกฤษ
2.การกำหนดวิธีการประชุมครม.
ครม.มีมติเห็นชอบการกำหนดวิธีการประชุมคณะรัฐมนตรี ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เสนอ สาระสำคัญของเรื่องกำหนดว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นเครื่องมือหลักในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลซึ่งตามนัยพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 มาตรา 8 วรรคสาม
บัญญัติให้วิธีการประชุมคณะรัฐมนตรีจะดำเนินการโดยเชิญรัฐมนตรีมาร่วมประชุม ณ สถานที่ที่กำหนด หรือโดยวิธีอื่นใดซึ่งผู้ร่วมประชุมสามารถปรึกษาหารือกันได้แม้จะมิได้อยู่ในสถานที่เดียวกันก็ได้ ทั้งนี้ ตามที่นายกรัฐมนตรีกำหนด
ดังนั้น สลค. จึงขอเสนอวิธีการประชุมคณะรัฐมนตรีโดยยึดหลักความสอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและ การประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 โดยมีองค์ประกอบเช่น การกำหนดวัน เวลา และสถานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยจะจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการกรณีปกติในทุกวันอังคาร ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
รวมทั้งกำหนดองค์ประกอบของการประชุมคณะรัฐมนตรี เช่น องค์ประชุมคณะรัฐมนตรี คือการประชุมคณะรัฐมนตรีในกรณีปกติให้ดำเนินการได้เมื่อมีรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนคณะรัฐมนตรีทั้งหมดที่มีอยู่ โดยจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมให้รวมถึงผู้เข้าร่วมประชุมโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งสามารถปรึกษาหารือกันได้แม้จะมิได้อยู่ในสถานที่เดียวกัน
3.การเสนอวาระต่าง ๆ เขามายัง ครม.
ครม.มีมติเห็นชอบ แนวทางปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐในการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี และการจัดวาระ เพื่อเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีเป็นวาระเพื่อทราบ หากไม่มีข้อทักท้วงให้ถือเป็นมติคณะรัฐมนตรีตามที่เสนอ
4.การมอบหมายงานกลั่นกรองเรื่องเสนอนายกฯ
ครม.มีมติเห็นชอบ การมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตรวจพิจารณา ร่างมติคณะรัฐมนตรี และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอเรื่องผ่านรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลด้านกฎหมายเป็นผู้พิจารณากลั่นกรองเสนอก่อนเสนอนายกรัฐมนตรีในเรื่องต่อไปนี้
5.การมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทน
ครม.รับทราบ แนวทางการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ประกอบด้วย
6.การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง
ครม.มีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอการแต่งตั้ง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2566 เป็นต้นไป