วันนี้ (6 กันยายน 2566) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ ถึง การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง ว่า การแต่งตั้งข้าราชการในหน่วยงานต่าง ๆ ช่วงนี้ ซึ่งเป็นฤดูกาลโยกย้าย โดยจะเน้นเรื่องผลงานเป็นหลัก ไม่ใช่มาจากการซื้อขายตำแหน่ง
“ช่วงนี้เป็นฤดูกาลโยกย้ายพอดี และเกิดขึ้นอยู่ตลอด จึงอยากจะเน้นย้ำว่า ภาคราชการเป็นภาคส่วนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนประเทศ เขาทำงานมาตลอดชีวิต เมื่ออยากได้ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน การปูนบำเหน็จทั้งหลายก็อยากให้มีความเป็นธรรม ด้วยผลงาน ไม่ใช่ได้มาจากการซื้อขายตำแหน่ง” นายเศรษฐา ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้าราชการจะสบายใจได้หรือไม่ว่าจะไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง นายกฯ ยืนยันว่า เรื่องนี้เป็นนโบายหลักเรื่องแรก ๆ ที่เคยพูดไปแล้ว และหวังว่า รัฐมนตรีทุกคนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ
นายเศรษฐา กล่าวว่า ในการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภานั้น รัฐบาลมีการจัดทำนโยบายดี ๆ ไว้หลายเรื่อง และในทุกนโยบายมีความจำเป็นต้องใช้กลไกการขับเคลื่อนจากภาคราชการจำนวนมาก ดังนั้นถ้าการแต่งตั้งโยกย้ายโดยไม่ให้เกียรติ และไม่มีความเป็นธรรม ก็อาจส่งผลกระทบมาถึงการขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ จะเป็นไปด้วยความลำบากได้
เตรียมถก ก.ตร. ตั้ง ผบ.ตร. คนใหม่
ขณะที่การแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจคนใหม่ ที่มีการเบรค นายกฯได้ดูแล้วหรือยัง นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าใช้คำว่าว่าเบรกจะถูกต้องหรือเปล่า แต่ตนจะไปนั่งประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เอง กำลังหาวันที่เหมาะสมไปประชุมก.ตร. เมื่อถามว่า ตำแหน่ง ผบ.ตร. คนใหม่มีชื่ออยู่ในใจหรือยัง นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่มี ตอนนี้ยังไม่ได้เข้าบริหารราชการ ขอเวลาสัปดาห์หน้าหลังจากได้แถลงนโยบายก่อน
เมื่อถามว่า เรื่องห้ามการซื้อขายตำแหน่งจะรวมไปถึงในส่วนของตำรวจด้วยหรือไม่ นายกฯ ปฏิเสธว่า ภาคส่วนของข้าราชการ ไม่ได้เจาะจงหรือบอกว่าหน่วยงานไหนมีปัญหามากเป็นพิเศษ เมื่อถามว่าจะพิจารณาถึงผลงานและความอาวุโสด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวสั้น ๆ ว่า "ทั้ง 2 อย่าง"
สำหรับข้อมูลของข้าราชการระดับสูงที่เกษียณอายุราชการในปีงบประมาณ 2566 และจำเป้นต้องมีการแต่งตั้งโยกย้าย นั้น ก่อนหน้านี้ ฐานเศรษฐกิจตรวจสอบข้อมูลในส่วนของกระทรวงสำคัญ ๆ ด้านเศรษฐกิจ พบว่า มีผู้บริหารเกษียณอายุราชการด้วยกัน 28 ตำแหน่ง ตั้งแต่ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง ผู้ตรวจราชการ และอธิบดีของหลายกระทรวง ดังนี้
กระทรวงการคลัง มี 7 ตำแหน่ง คือ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข รองปลัดกระทรวงการคลัง, นายบุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวง, นายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวง, นางชลิดา พันธ์กระวี ผู้ตรวจราชการกระทรวง, นายเอด วิบูลย์เจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวง และนางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มี 7 ราย คือ นายสุรเดช สมิเปรม รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายขจร เหล่าประเสริฐ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน, นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง, นายเข้มแข็ง ยุติธรรม-ดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร, นายประกอบ เผ่าพงศ์ อธิบดีกรมหม่อนไหม และ นายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
กระทรวงอุตสาหกรรม มี 6 คน คือ นายสุรพล ชามาตย์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม, นายทาวัน ทวีถาวรสวัสดิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม, นายนิรันดร์ ยิ่งมหิศรานนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่,นายภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย, นางสุชาดา โพธิ์เจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และนายสหวัฒน์ โสภา รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย
กระทรวงพาณิชย์ มี 4 ตำแหน่ง คือ นายวันชัย วราวิทย์ รองปลัดกระทรวง, นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า,นายกำแหง กล้าสุคนธ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ นางระวีพรรณ ช้างเย็นฉ่ำ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
กระทรวงพลังงาน มี 3 ตำแหน่ง คือ นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน, นายสมบูรณ์ หน่อแก้ว รองปลัดกระทรวงพลังงาน และ นายสุรีย์ จรูญศักดิ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
กระทรวงคมนาคม มี 1 ราย คือ นายปริญญา แสงสุวรรณ อธิบดีกรมท่าอากาศยาน