วันที่ 28 กันยายน 2566 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีไม่ได้เข้ามาตอบกระทู้ถามเรื่องความโปร่งใสในการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนใหม่ว่า เข้าใจได้ว่านายกรัฐมนตรีติดภารกิจ แต่ไม่ได้กำหนดเวลาว่าจะกลับมาตอบสมาชิกเมื่อใด ทางเราไม่ถึงกับจะต้องเคี่ยวเข็ญ แต่วันนี้ไม่ได้รับคำชี้แจง และได้หนังสือเพียงไม่กี่บรรทัดซึ่งตอบห้วนๆว่าไม่สะดวกมาตอบ
จึงมีข้อสงสัยว่าความจริงใจเรื่องการปฏิรูปตำรวจของนายกรัฐมนตรีชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน อยู่ที่ไหน เพราะก่อนหน้านี้ผู้สื่อข่าวได้เคยถามเรื่องการสังคายนาองค์กรตำรวจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีระบุว่าอย่าใช้คำนั้น เพราะว่าตำรวจเป็นองค์กรที่มีเกียรติศักดิ์ศรี ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกัน
แต่วันนี้ต้องยอมรับแล้วว่าวงการตำรวจมีปัญหาแบบเดือนเว้นเดือน บางช่วงมีเดือนละหลายเรื่อง ถ้าเราไม่คิดจะแก้ปัญหา ก็จะมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยของสังคม ตำรวจเองยังถูกยิงเสียชีวิต วันนี้ขยายผลไปได้แค่ไหนยังไม่รู้เลย
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ส่วนตัวหากมีตำรวจเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ ต้องดำเนินคดีไปเลย แต่มีความสงสัยว่าเป็นการกลั่นแกล้ง เตะตัดขากันหรือไม่ เช่นหมายค้นดังกล่าว ผมได้เห็นกับตาตัวเองว่าไม่ได้ใส่ชื่อยศ และอาชีพของเจ้าบ้าน ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกับองค์กรตำรวจ
และยอมรับว่าภารกิจของนายกรัฐมนตรีมีความสำคัญก็จริง แต่ตำรวจอีกหลายครัวเรือนก็ได้รับความเดือดร้อน จึงอยากตั้งคำถามอีกครั้งว่านายกรัฐมนตรีมีความจริงใจจะแก้ปัญหาความทุจริตคอรัปชั่นในองค์กรตำรวจหรือไม่ ต้องมีความชัดเจนที่จะเริ่มต้นปฏิรูป กระดุมเม็ดแรกคือต้องสร้างความโปร่งใสในการแต่งตั้ง ผบ.ตร.
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ากระบวนการแต่งตั้งจบไปพอสมควร และคงไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรแล้ว แต่ไม่ว่าจะแต่งตั้งใคร สุดท้ายสังคมก็จะตั้งคำถามว่าเป็นการเลือกจากอะไร จากความอาวุโส ความสามารถ หรือวิสัยทัศน์ คือสิ่งที่สังคมยังไม่ได้รับคำตอบ
ที่ผ่านมาได้เสนอให้ว่าที่ ผบ.ตร. ได้มีโอกาสแสดงวิสัยทัศน์ให้ประชาชนได้เห็น ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแสดงความเห็นหรือโหวต เพื่อประกอบการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี แต่นายกรัฐมนตรีไม่เคยคิดจะทำ ทำให้ข้อครหาว่ามีเส้นสายสัมพันธ์ต่างๆ อยู่เบื้องหลังก็จะเกิดขึ้นอยู่ร่ำไป
นายรังสิมันต์ กล่าวถึงข้อสงสัยการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับเรื่องตั๋วหรือไม่ว่า พยายามให้ความเป็นธรรมกับทุกคน คิดว่าโดยข้อกฎหมายมีโอกาสที่จะเป็น ผบ.ตร.คนอื่นก็ได้ เพราะเป็นการใช้ดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี แต่ก็รอคอยเหตุผลของการใช้ดุลพินิจนั้นอยู่
ดังนั้น จะเป็นตั๋วหรือไม่ใช่ บางครั้งก็อยู่ที่นายกรัฐมนตรีเอง แต่หากไม่มีการชี้แจง สังคมก็จะอนุมานว่าการแต่งตั้ง ผบ. ตร ไม่มีความสุจริตจริง ซึ่งก็น่าสงสารว่า ผบ. ตร.คนใหม่ก็จะได้รับมลทินไปด้วย
นายรังสิมันต์ กล่าวใสนตอนท้ายว่า หวังว่าในอนาคต นายเศรษฐา จะตอบสภาว่าพร้อมจะชี้แจงต่อสังคมเมื่อใด เชื่อว่าเมื่อครั้งอยู่ในบริษัทเอกชนจะต้องอธิบายได้ว่าจะแต่งตั้งใคร อย่าให้อำนาจความเป็นนายกรัฐมนตรีมาสิงตัวท่าน จนท่านไม่เหลือเหตุผลจะอธิบายให้ประชาชนต่อเรื่องนี้อีกต่อไป