ความคืบหน้าการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ เช่นโฉนดที่ดิน และ น.ส.3 ก. ทับซ้อนบนที่ดินเขากระโดง ตำบลอิสาณ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 772 แปลง รวมเนื้อที่ 5,083 ไร่ หลังจากศาลปกครองกลางมีคำสั่ง เมื่อวันที่30 มีนาคม 2566 ให้กรมที่ดินตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อดำเนินการเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ทับซ้อนที่ดินบริเวณพื้นที่ทางแยกเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ของ รฟท.
ต่อมานายชยาวุธ จันทร อธิบดีกรมที่ดิน ได้มอบหมายให้รองอธิบดีกรมที่ดิน มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ตามคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน ที่ 1195-1196/2566 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2566
ล่าสุด นางวรพิชชา นาควัชระ หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการที่ดิน สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ได้ทยอยส่งหนังสือถึงผู้ครอบครองโฉนดที่ดินเขากระโดง ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการเพิกถอนโฉนด นำโฉนดที่ดินพร้อมคำคัดค้าน ไปมอบให้คณะกรรมการสอบสวน ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
สำหรับหนังสือที่ส่งถึงผู้ครอบครองเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง ระบุว่า ด้วยปรากฏว่า โฉนดที่ดินเลขที่...ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งออกสืบเนื่องจากหลักฐานแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) เป็นโฉนดที่ดินที่ออกไปโดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เนื่องจากออกในเขตที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสร้างทางรถไฟหลวงต่อจากนครราชสีมาถึงอุบลราชธานี ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน พระพุทธศักราช 2462 และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจัดซื้อที่ดินและอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่น เพื่อสร้างทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้การรถไฟแผ่นดินจัดสร้าง ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน พระพุทธศักราช 2464
และโดยที่ที่ดินบริเวณที่หารือซึ่งเป็นที่ดินที่อยู่ในแนวเขตที่ดินของกรมรถไฟในขณะนั้นมีสภาพเป็นที่ป่า ยังไม่มีผู้ใดครอบครองทำประโยชน์ และเมื่อกรมรถไฟแผ่นดินได้เข้าใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นแหล่งวัสดุสำหรับการก่อสร้างทางรถไฟ จึงถือได้ว่าเป็นการหวงห้ามที่ดินรกร้างว่างเปล่าไว้ใช้ในราชการตามกฎหมายแล้ว ที่ดินนั้นจัดเข้าลักษณะเป็นที่ดินรถไฟ ตามมาตรา 3 (2) และได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟแลทางหลวง พระพุทธศักราช 2564 ซึ่งต้องเพิกถอนให้เป็นการถูกต้องตามนัยมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
รองอธิบดีกรมที่ดิน โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 61 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2551 ประกอบกับกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการสอบสวนและการพิจารณาเพิกถอนหรือแก้ไขการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม หรือการจดแจ้งเอกสารรายการจดทะเบียนโดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย พ.ศ. 2553 จึงมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อดำเนินการในกรณีดังกล่าวแล้ว
คณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน จึงขอแจ้งให้ท่านซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการเพิกถอนโฉนดที่ดิน ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ทราบและขอให้ท่านนำโฉนดที่ดิน ฉบับดังกล่าวไปมอบให้คณะกรรมการสอบสวน ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์
และหากท่านมีความประสงค์จะคัดค้านการเพิกถอน ด้วยเหตุประการใด ขอให้ทำหนังสือคัดประธานคณะกรรมการสอบสวน ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ ภายในกำหนด 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง หรือถือว่าได้รับแจ้ง โดยให้ระบุเหตุผลที่คัดค้านพร้อมเอกสารหลักฐาน (ถ้ามี) หากท่านไม่คัดค้านตามกำหนดถือว่าไม่ประสงค์จะคัดค้าน และคณะกรรมการสอบสวนฯ จะได้พิจารณาดำเนินการต่อไป
สำหรับที่ดินเขากระโดงของรฟท.แบ่งเป็นสามกลุ่มได้แก่ กลุ่ม
กลุ่มแรกคือ ที่ดิน 35 แปลง ซึ่งเป็น ส.ค.1 กรมที่ดินเพิกถอนคืนรฟท.แล้ว ตามคำพิพากษาศาล ปี 2561 ตั้งอยู่บริเวณปลายกิโลเมตรที่ 8 ทางรถไฟแยก บุรีรัมย์เข้าเขากระโดง
กลุ่มที่สอง เป็นที่ดินแปลงเล็ก ที่มีเอกสารสิทธิ์เป็น น.ส.3 ซึ่งชาวบ้านครอบครอง ตั้งอยู่ช่วงกลางแผนที่ หรือติดริมถนนประโคนชัย บุรีรัมย์ ปัจจุบัน กรมที่ดินอยู่ระหว่างเพิกถอน
อีกกลุ่ม 5,083 ไร่ ศาลปกครองกลางชี้ขาดแล้วให้กรมที่ดินตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ ที่ออกทับที่ดินเขากระโดง
อย่างไรก็ตามการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินเขากระโดงครั้งนี้มี มีโฉนดที่ดินของเครือญาติของศักดิ์สยาม ชิดชอบ และบริษัทที่มีเครือญาติของศักดิ์สยามถือหุ้นหรือเป็นกรรมการบริษัทฯ ในพื้นที่เขากระโดง รวม 12 แปลง แปลง เนื้อที่รวม 179 ไร่ 1 งาน 43.3 ตารางวา อยู่ในข่ายถูกเพิกถอนด้วย ประกอบด้วย