ถ้าพิจารณาจากรายชื่อ “นายตำรวจระดับนายพล” รอบนี้ ต้องปรบมือให้กับ บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.+นายกรัฐมนตรี +ก.ตร. ทุกคน ไม่ว่า 1.พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก 2.พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ 3.พล.ต.อ.วินัย ทองสอง 4.นายฉัตรชัย พรหมเลิศ 5.รศ.ประทิต สันติประภพ 6.ศ.ศุภชัย ยาวะประภาษ 7.นายปิยวัฒน์ ศิวรักษ์ เลขาธิการ ก.พ. 8.น.ส.อ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการ ก.พ.ร. รวมถึง รองผบ.ตร.อีก 3 คน ”บิ๊กรอย-บิ๊กโจ๊ก-บิ๊กต่าย” ที่ถอยกันคนละก้าว
ผลที่ตามมาคือ “คนของนาย” หลุดโผกันหลายคน อานิสงส์ของคุณธรรมในการแต่งตั้งรอบนี้ ทำให้นายตำรวจที่เข้าสู่ตำแหน่งตามหลักอาวุโส 50% ความรู้ ความสามารถในการทำงาน 50% มีโอกาสขึ้นสู่ตำแหน่งกว่า 22 ตำแหน่ง
เสียสละ+สมานฉันท์ในการแต่งตั้ง ทำให้องค์กรตำรวจนิ่ง เพราะนายกรัฐมนตรียึดตาม พรบ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 77 ว่าด้วยเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจอย่างรัดกุม รอบคอบที่สุด
1.”ระดับรอง ผบ.ตร.- จเรตำรวจแห่งชาติ” แต่งตั้งจากนายตำรวจยศ พล.ต.ท. หรือ พล.ต.อ. และเคยดำรงตำแหน่ง ผช.ผบ.ตร. หรือ รองจเรตำรวจแห่งชาติ มาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ในกรณีไม่มีผู้ใดเคยดำรงตำแหน่งมาไม่ถึง 1ปี ให้แต่งตั้งจากผู้ที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุด
2. “ระดับ ผช.ผบ.ตร.และรอง จเรตำรวจแห่งชาติ” ให้แต่งตั้งจากข้าราชการตำรวจยศ พล.ต.ท. และเคยดำรงตำรงแหน่งระดับ ผบช.หรือ จรต.มาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
3. “ระดับ ผบช.-จเรตำรวจ” แต่งตั้งจากข้าราชการตำรวจยศ พล.ต.ต.หรือ พล.ต.ท. และเคยดำรงตำแหน่งระดับ รอง ผบช.หรือ รองจเรตำรวจ มาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
เมื่อหลักการชัด การแต่งตั้งนายตำรวจในยุค “เศรษฐา-บิ๊กต่อ” จึงเป็นการแต่งตั้งที่ชัดเจน ระนาบ รอง ผบ.ตร. โผเดิมไม่มีพลิก อาวุโสตามลำดับทุกคน
พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง นรต. 39 เป็น เจรตำรวจแห่งชาติ เกษียณอายุปี 2568
พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช นรต.42 เป็นรองผบ.ตร. เกษียณอายุปี 2567
พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ นรต. 42 เป็น รองผบ.ตร.เกษียณอายุปี 2569 นายตำรวจสายตรง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร.ปัจจุบันเป็น รองนายกฯและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ
ระดับ ผู้ช่วย ผบ.ตร. 5 ตำแหน่ง ก็ไม่มีแตกแถว ยึดหลักการแต่งตั้งตามอาวุโสเป๊ะ ไม่มีผิด ไม่มีพลาด
1.พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. อยู่ที่เดิม เกษียณอายุปี 2568
2.พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. อยู่ที่เดิม เกษียณอายุปี 2568 อยู่ที่เดิมจะโยกไปเป็นเลขาธิการ ปปส.หรือไม่เท่านั้น
3.พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่ (สบ9) รพ.ตำรวจ เป็น ผช.ผบ.ตร.อาวุโส 1 เกษียณปี 2569
4.พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจะพันธ์ ผบช.สตม. เป็น ผช.ผบ.ตร. อาวุโสอันดับ2 เกษียณปี 2567
5.พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เป็น ผช.ผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 3 เกษียณปี 2568
6.พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 เป็น ผช.ผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 4 เกษียณปี 2568
7.พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบช.สพฐ.ตร เป็น ผช.ผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 5 เกษียณปี 2572 ถือเป็นนายตำรวจสายตรง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร.
เฉพาะตำแหน่ง “รองผบ.ตร.+จเรตำรวจแห่งชาติ+ผช.ผบ.ตร.”ในปีนี้นิ่ง แต่ในปี 2567 เมื่อ “บิ๊กต่อ+บิ๊กรอย+บิ๊กสราวุฒิ” เกษียณอายุราชการไปในช่วงเดือนตุลาคม 2567 นั่นแหละ “ม้าแข่งในตำแหน่ง ผบ.ตร.+รอง ผบ.ตร.” รวมถึงการตั้งคนเพื่อรอวันขึ้นเป็น ผบ.ตร.คนต่อไปจะดุเดือดเลือดพล่านเป็นพิเศษ
เพราะในระนาบ รองผบ.ตร. มีโอกาสขึ้นเป็น ผบ.ตร.หมดทุกคน ทั้ง “บิ๊กต่าย-บิ๊กโจ๊ก-บิ๊กธนา-บิ๊กไกรบุญ” อยู่ที่จะเลือกม้าตัวไหน ใช้ดาบอย่างไร อายุราชการแค่ไหนเท่านั้น
เพราะในมาตรา 77 กำหนดว่า “การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้แต่งตั้งจากข้าราชการตำรวจยศพลตำรวจเอกซึ่งดำรงตำแหน่งจเรตำรวจแห่งชาติ หรือรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ”!
การแต่งตั้ง ผบ.ตร.รอบปี 2567 จึงจะร้อนแรงถึงพริกถึงขิง เพราะถ้าตั้ง รองผบ.ตร.ตามอาวุโส อันดับ 1 คือ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อายุราชการลากยาวไปถึงปี 2574 เพราะเกิด 29/10/2513 จะเป็น ผบ.ตร.ที่ยาวนานมากถึง 7 ปี
แต่ถ้าตั้ง บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร อายุราชการลากยาวไปปี 2569 เพราะเกิด 8/12/2508 เช่นเดียวกับการเลือก พล.ต.อ.ธนา ชูวงษ์ ที่อายุราชการจะยาวถึง 2569 เพราะเกิด 22/10/2508
ขณะที่ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาตินั้น อายุราชการจะไปจบแค่ปี 2568 เนื่องจากเกิด 10/11/2507
ปัจจัยเรื่องการ “วางคนคั่นกลาง” ของคนบางคน จะเป็นชนวนให้เกิดความร้อนแรง และขัดแย้งหนักหน่วงว่าด้วยเรื่องคุณธรรมและหลักอาวุโสความรู้ความสามารถ ที่ ก.ตร. พยายามวางหลักการในการพิจารณา ตำแหน่ง ผบ.ตร.ที่คุมกำลังตำรวจทั่วประเทศกว่า 2 แสนนาย
ฟันธงทำนายกันไว้ในที่นี้เลยว่า ในปี 2567 จะมีการแต่งตั้ง ผช.ผบ.ตร.ที่เป็น Super Star ที่ถูกดันขึ้นมาเพื่อจ่อรอคิวเป็น ผบ.ตร.ในอนาคต ในตำแหน่ง “รอง ผบ.ตร.” ทดแทน 3 บิ๊ก ที่เกษียณอายุราชการไปอย่างแน่นอน
ไม่แน่ว่า “รอง ผบ.ตร.” ชุดใหม่ที่จะถูกดันขึ้นมา อาจเป็น “ก้างขวางคอ” ในเส้นทางการเดินไปสู่ตำแหน่งเก้าอี้ ผบ.ตร.ของ “บิ๊กโจ๊ก” ได้แบบพลิกฟ้า พลิกแผ่นดิน
ทำไมนะหรือ โปรดดูรายชื่อและอายุราชการ ผช.ผบ.ตร.ในปัจจุบันที่เป็น SUPER STAR ได้เลย!
1.พล.ต.ท.นิรันดร์ เหลื่อมศรี เป็น ผช.ผบ.ตร.เมื่อ 1/10/65 เป็น ผบช.เมื่อ 1/10/2561 เป็น ผบก.เมื่อ 1/10/2557 เกิดวันที่ 19 พฤศจิกายน 2510 อายุราชการจะยาวนานถึงปี 2571
2.พล.ต.ท.ธัชชัย ปีตะนีละบุตร เป็น ผช.ผบ.ตร.เมื่อ 1/10/2565 เป็น ผบช.เมื่อ 1/10/2564 เป็น ผบก.เมื่อ 1/10/2556 เกิดวันที่ 8 มีนาคม 2510 อายุราชการนานถึง ปี 2570
3.พล.ต.ท.สำราณ นวลมา เป็น ผช.ผบ.ตร. เมื่อ 1/10/2565 เป็น ผบช.เมื่อ 1/10/2564 เป็น ผบก.เมื่อ 1/10/2561 เกิดวันที่ 14 มิถุนายน 2516 อายุราชการยาวนานถึงปี 2576
ถ้า Super Star ทั้ง 3 คนนี้ เข้าสู่ตำแหน่ง “รอง ผบ.ตร.” เมื่อไหร่ ถึงตอนนั้น ประตูสำหรับเก้าอี้ ผบ.ตร. เปิดกว้างทันที เพราะมีสิทธิ์แข่งขันตามกฎหมาย และจะกลายเป็นคู่ชิงเก้าอี้ รองผบ.ตร.ที่อายุยาวนานที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งก็คือ “บิ๊กโจ๊ก” ผู้สร้างตำนาน แมวเก้าชีวิต ขององค์กรตำรวจในปัจจุบันทันที
เชื้อไฟที่ถูกดับด้วย “สามัคคี-เสียสละ-สมานฉันท์” ในวันนี้ รอวันปะทุในองค์กรตำรวจช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2567
ไม่เชื่อ รอนับวันกันได้เลย!