วันที่ 21 ธันวาคม 2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ของ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว ส.ส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล ถาม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ถามถึงความเป็นธรรมในการบังคับใช้กฎหมายกับทุกคนอย่างเสมอภาค ในการได้รับสิทธิรับการรักษาพยาบาลของผู้ต้องขัง โดยยก กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เทียบเกณฑ์หรือบรรทัดฐานในการพิจารณาให้สิทธิผู้ต้องขังในการรับการรักษาพยาบาลด้านนอก ปัจจุบันเกิน 120 วัน จนสังคมเกิดการตั้งคำถามถึงการเอื้อประโยชน์
น.ส.ชลธิชา กล่าวว่า กรณีของนายทักษิณ ทำให้สังคมตั้งคำถาม และขอให้ชี้แจง แสดงพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความจำเป็นที่นายทักษิณต้องพักรักษาตัวในห้องพิเศษ ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ที่เป็นชั้นวีไอพี มีความเหมาะสมและจำเป็นอย่างไร เพราะตามเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์ ห้ามแยกผู้ต้องขังอยู่ห้องพิเศษแยกออกจากผู้ป่วยทั่วไป เพื่อไม่ให้เกิดกรณีเลือกปฏิบัติผู้ต้องขังที่ร่ำรวย รวมถึงการออกระเบียบใหม่ของกรมราชทัณฑ์ให้คุมขังนอกเรือนจำได้ เป็นการเอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณหรือไม่ คดีใดบ้างจะเข้าตามระเบียบใหม่
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงแทนนายเศรษฐา ว่า นายทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม วันที่ 22 สิงหาคม 2566 ในสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่รัฐบาล “เศรษฐา” แถลงนโยบายวันที่ 11 กันยายน 2566 กระบวนการของนายทักษิณ รัฐบาลนี้จึงไม่ได้รับรู้ และการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องเกิดขึ้นก่อนรัฐบาลปัจจุบัน และเมื่อตนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีหน้าที่ปฏิบัติตาม
ยืนยันว่ารัฐบาลปัจจุบันยึดหลักหลักนิติธรรมและรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนได้ตรวจดูถึงการออกกฎหมาย เพราะถูกตราหน้าจากสังคมโลก ว่า มีนักโทษล้นคุก และมีลักษณะการทรมาน ทำให้ไม่สามารถบริหารโทษผู้ต้องขังเฉพาะรายได้อย่างเหมาะสม เพราะกฎหมายไม่ให้อำนาจ รวมถึงให้มีสถานควบคุม หรือคุมขังประเภทอื่นนอกจากเรือนจำทำให้การบริหารเรือนจำไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ โดยกฎหมายหลักออกมาเมื่อปี 2560 แต่ไม่มีผู้ออกกฎรองหรือระเบียบ เพราะกรรมการราชทัณฑ์ไม่เคยมีการประชุม จนตนเข้ารับตำแหน่ง
พ.ต.อ.ทวี ชี้แจงด้วยว่าส่วนกรณีของนายทักษิณ ที่ทุกฝ่ายเรียกร้องให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ที่ทราบว่าพักรักษาตัวนอกเรือนจำ ครบ 120 วัน ซึ่งตนจะพูดเฉพาะข้อเท็จจริงที่ได้รับเป็นเอกสารเท่านั้น เพราะหากพูดเกินไปจะถูกมองว่าเป็นศรีธนญชัย ซึ่งขณะนี้ตนยังไม่ได้รับเอกสารใดๆ ทั้งนี้รับทราบจากอธิบดีราชทัณฑ์ว่า วันนี้ (21 ธ.ค.) จะส่งรายงานมายังตน และตนมีหน้าที่เพียงรับทราบ แต่ไม่ใช่ผู้อนุมัติ
“ผมทราบว่า มีตัวแทนของหมอโรงพยาบาลตำรวจเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การตำรวจ และผมได้พูดคุยว่า เรือนจำคือที่คุมขังผู้ต้องขัง และสิ่งที่ต่อเนื่องตามกฎหมายถือว่าออกไปไหนไม่ได้ และมีผู้ควบคุม ไม่มีใครเยี่ยมได้ ซึ่งเป็นระเบียบเดียวกันกับเรือนจำ
ผมถามหมอตรงๆ ท่านยืนยันว่า นายทักษิณป่วยจริง มีหลักฐานตามที่ปรากฎจริงและจากรายงานจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำ พบว่าผู้ป่วยเป็นหลายโรค กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง และเป็นความเห็นของแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ที่ยืนยันว่าป่วยจริง” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
รมว.ยุติธรรม กล่าวต่อว่า สำหรับระเบียบราชทัณฑ์เป็นเกณฑ์ปกติ ไม่ใช่เฉพาะนายทักษิณ ซึ่งออกระเบียบแล้วไม่ใช่จะจบเรื่อง เพราะต้องเข้าประชุมกรรมการ ที่จะประชุมต้นเดือนมกราคม 2567 ที่มีผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกร่วมด้วย และขณะนี้ตนเตรียมออกระเบียบอีกฉบับ ให้การคุมขังนอกเรือนจำครอบคลุมผู้ที่อยู่ระหว่างสอบสวนด้วย โดยให้ศาลพิจารณา
“ตามรายงานที่ปรากฎมาให้ผม ชั้น 14 ไม่ใช่ชั้นพิเศษ และผมยังพบผู้ใหญ่บางคนไปเยี่ยมญาติที่ชั้น14 เหมือนกัน แต่เป็นคนละส่วนกัน แต่การรักษาความปลอดภัยมีตามระบบของราชทัณฑ์ ส่วนเอกสารเกี่ยวกับสุขภาพ เรื่องอาการป่วย ไม่สามารถให้ได้ เพราะตามพ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ จะต้องเป็นความรับ และรายละเอียดอื่นจะมองให้” พ.ต.อ.ทวี กล่าว