อินไซด์ สรรหา ป.ป.ช.คนใหม่ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง เบียด อดีตรองประธานศาลฎีกา

23 ธ.ค. 2566 | 07:49 น.
อัพเดตล่าสุด :23 ธ.ค. 2566 | 08:13 น.

เปิดผลคะแนน-เหตุผล 7 กรรมการสรรหา ป.ป.ช. ลงมติเดือด - สู้กันถึง 3 ยก ก่อน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เบียด ภัทรศักดิ์ วรรณแสง อดีตรองประธานศาลฎีกา เข้ารอบด่าน สว. โหวต นั่ง กรรมการป.ป.ช.คนใหม่

วันที่ 23 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังคณะกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการสรรหา ป.ป.ช.) ได้ทำหนังสือถึงนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา รายงานผลการสรรหาบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการ ป.ป.ช. คือ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) แทนพล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ กรรมการ ป.ป.ช.ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ เพื่อให้ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติต่อไปนั้น

รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ในรอบการลงมติของคณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.ช. จำนวน 8 คน ต้องลงคะแนนถึง 3 รอบ กว่า พล.ต.ท.ธิติ จะเป็นผู้ได้รับคะแนนเสียงถึง 2 ใน 3 ให้เป็นผู้ได้รับการสรรหาให้เป็นบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการ ป.ป.ช.

โดยคณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.ช. จำนวน 8 คน (ขณะลงคะนนยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร) ลงคะแนนเลือกพล.ต.ท.ธิติ โดยเปิดเผย พร้อมบันทึกเหตุผลในการเลือก ดังนี้ 

รอบแรก กรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.ช. ลงคะแนนเลือก พล.ต.ท.ธิติ จำนวน 3 คน ประกอบด้วย

นางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกา ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.ช. โดยบันทึกเหตุผลในการเลือก พล.ต.ท.ธิติ ระบุว่า

  • พิจารณาความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ในการทำงานแล้วเห็นว่า สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ของกรรมการ ป.ป.ช.
  • ผลงานที่ผ่านมาแสดงถึงความซื่อสัตย์สุจริต และความกล้าหาญ
  • มีเป้าหมายในการพัฒนาองค์กร ป.ป.ช. การแก้ปัญหาการทุจริตชัดเจน เป็นรูปธรรม

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร 

  • มีวิสัยทัศน์ชัดเจน กว้างไกล จะเป็นประโยชน์กับการพัฒนางานของ ป.ป.ช.มาก 

น.ส.พศุตม์ณิชา จำปาเทศ บุคคลซึ่งศาลรัฐธรรมนูญแต่งตั้ง

  • มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ที่เหมาะสมต่อการปฏิบัติหน้าที่กรรมการ ป.ป.ช.และพิจารณาจากประสบการณ์ มีความกล้าหาญ และรับผิดชอบคดีสำคัญๆ จำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผลการลงคะแนนรอบแรก ปรากฏว่า มีผู้ได้รับคะแนนเท่ากัน 2 คน คือ พล.ต.ท.ธิติ ได้ 3 คะแนน และนายภัทรศักดิ์ วรรณแสง อดีตรองประธานศาลฎีกา (ประเภทผู้สมัครตาม พ.ร.ป.ว่าด้วย ป.ป.ช. 2561 มาตรา 9 วรรคสอง (1))

ดังนั้น การลงคะแนนในรอบแรกจึงยังไม่มีผู้ได้รับคะแนนเสียงถึง 2 ใน 3 ของจำนวนทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของคณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.ช. จึงต้องลงคะแนนรอบที่สอง ซึ่งผลคะแนนยังเหมือนกับการลงคะแนนรอบแรก 

แต่ผลลงคะแนนรอบที่สาม ปรากฏว่า นายภัทรศักดิ์ ได้ 1 คะแนน ส่วนพล.ต.ท.ธิติ ได้ 7 คะแนน ทำให้พล.ต.ท.ธิติ เป็นผู้ได้รับคะแนนเสียงถึง 2 ใน 3 ของจำนวนทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของคณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.ช. โดยมีเหตุผลการเลือก ดังนี้ 

นางอโนชา 

  • ลักษณะงานที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์เหมาะสม 
  • ผลงานที่ผ่านมา แสดงถึงความซื่อสัตย์สุจริต และความกล้าหาญเป็นที่ประจักษ์
  • เป้าหมายในการพัฒนาองค์กรชัดเจน เป็นรูปธรรม เข้าใจเนื้องานอย่างแท้จริง

นายวันมูหะมัดนอร์

  • มีวิสัยทัศน์กว้างไกล กล้าหาญ ชัดเจน จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนา ป.ป.ช.

ศาสตราจารย์พิเศษ วรพจน์ วิศรุตพิชญ์ ประธานศาลปกครองสูงสุด (ลงคะแนนรอบแรกและรอบที่สองเลือกนายภัทรศักดิ์) 

  • ความกล้าหาญที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ประกอบกับความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในด้านการสืบสวนของผู้สมัครรายนี้น่าจะทำให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช.ได้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องชอบธรรม

น.ส.พศุตม์ณิชา 

  • เหตุผลเหมือนครั้งที่ 1 

นายฉัตรชัย ยอดอุดม บุคคลซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แต่งตั้ง 

  • มีความรู้ ความสามารถดี 

พล.ต.อ.ศักดิ์ดา ชื่นภักดี บุคคลซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินแต่งตั้ง (ลงคะแนนรอบแรกและรอบที่สองเลือกนายภัทรศักดิ์)

  • มีทัศนคติที่เหมาะสมในการปฏิบัติงาน มีพฤติกรรมทางจริยธรรม การทำงานกล้าหาญ รับผิดชอบดี 

นายบุญสม อัครธรรมกุล บุคคลซึ่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติแต่งตั้ง 

  • มีผลงานและประสบการณ์ดี มีวิสัยทัศน์ที่ดี เหมาะกับองค์กร ป.ป.ช. เชื่อว่า มีความกล้าหาญในการทำงานได้ดี 

ดังนั้น พล.ต.ท.ธิติ จึงเป็นผู้ได้รับการสรรหาให้เป็นบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการ ป.ป.ช.แทนพล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ กรรมการ ป.ป.ช.ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ 

ทั้งนี้ ผู้สมัครเข้ารับการสรรหากรรมการ ป.ป.ช.ที่มีคุณสมบัติตามพ.ร.ป. ว่าด้วย ป.ป.ช.พ.ศ.2561 มาตรา 9 มาตรา 10 และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 11 ได้แสดงความคิดเห็นและเข้ารับการสัมภาษณ์กับคณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.ช.จำนวน 14 คน 

โดยพล.ต.ท.ธิติ อยู่ในประเภทที่สมัครตามที่กำหนดไว้ในพ.ร.ป. ว่าด้วย ป.ป.ช. 2561 มาตรา 9 วรรคสอง (2) คือ

“รับราชการหรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีหรือหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่ามาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี”

โดยมีนายธัญญา เนติธรรมกุล อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เป็นผู้สมัครอีก 1 คน อยู่ในประเภทเดียวกัน