วันนี้ (27 ธันวาคม 2566) ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดบทสนทนาพิเศษกับผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ถาม-ตอบทุกคนถามในวาระครบ 108 วันการทำงานของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะบทบาทของนายกฯเศรษฐา – อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร และอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย และการ "เปลี่ยนตัวนายกฯ"
นพ.พรหมินทร์ กล่าวถึงปัจจัยเสี่ยงในปี 2567 ที่จะทำให้ต้องเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี หรือ รัฐบาลอยู่ไม่ครบวาระหรือไม่ว่า ปัจจัย คือ เรื่องเศรษฐกิจของโลก เรื่องเสถียรภาพของภาครัฐ ยืนยันว่า แน่นเหนียว และเป็นสิ่งที่ถ้ามุ่งไปสู่ประโยชน์ของประชาชน “เสียงเราดัง”
นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญในวันนี้เศรษฐกิจของประเทศจีนจะโตไม่เป็นไปอย่างที่เคยโตมาก่อน เศรษฐกิจยุโรปก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ สหรัฐฯ ที่ดูเหมือนดีแต่ก็ยังทรง ๆ เราต้องช่วยตัวเองเยอะ
“นี่คือความเสี่ยงของเรา เพราะฉะนั้นจะต้องให้ความสำคัญของการเติบโตของเศรษฐกิจของ domestic ถึงได้มีเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ คือ การปรับสร้างรายได้จากศักยภาพของเรา ถึงได้มีการปรับสร้างคุณค่า เช่น ปรับเปลี่ยนเรื่องของทรัพย์สิน เรื่องของที่ดิน สปก. ให้เป็นโฉนด ปรับเปลี่ยนตัวเราเองให้ทันสมัย ทิศทางของเศรษฐกิจสมัยใหม่ที่จะลงทุน เราไปยืนดักรอไว้ เราต้องให้ความสำคัญของพลังงานทดแทนมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะโลกเรียกร้อง ประเทศเราจะต้องทำให้เป็นสีเขียว การให้ที่ สปก.ปรับเปลี่ยนบริเวณโฉนดจะต้องมีเงื่อนไขสร้างความเป็นสีเขียวเพิ่มขึ้นด้วย เรายิงนกตัวเดียว ร่วงทั้งฝูง”นพ.พรหมินทร์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ภายใน 4 ปีนี้จะเห็นคุณอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เข้ามาเป็นตัวจริงในตำแหน่งรัฐบาลหรือไม่
“ขณะนี้คุณอุ๊งอิ๊งค์เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และเพื่อให้เห็นว่ายังมีบทบาทอยู่ ทาวรัฐบาลก็ได้เห็นความสำคัญ แต่แน่นอนที่สุด ท่านนายกฯ คือ เศรษฐา ทวีสิน ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยน เพื่อเปลี่ยนนายกฯอะไร”นพ.พรหมินทร์กล่าว
เมื่อถามว่า ปีหน้าจะเห็นคุณทักษิณมาช่วยแนะนำเกี่ยวกับการบริหารงานประเทศของรัฐบาลหรือไม่ นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า ถ้าท่าน (ทักษิณ) เป็นคนสำคัญที่ยังมีความคิด ความเห็นที่ทันโลกและเปลี่ยนแปลง ความคิดเห็นทุกทาง ไม่ใช่เฉพาะคุณทักษิณเท่านั้น จากทุกทางที่เป็นประโยชน์กับโลก กับประเทศไทย รัฐบาลรับฟังทั้งสิ้น ทุกวันนี้ก็รับฟังตลอด ท่านนายกฯ ได้ยินอะไรมา แม้กระทั่งเสียงประชาชน ที่ไปบ่นแปบเดียว 3 คำ เอ๊ะ มันสะท้อนอะไร ก็เอามาสั่งการ
“นายกฯเศรษฐาเป็นคนรับฟังความคิดเห็นของใครก็ได้ แม้กระทั่งอีลอนมัสก์ก็มีข้อคิดเห็น เจออันวาร์ (นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย) มีข้อคิดเห็น แต่นำมาปรับใช้ นายกฯชื่อเศรษฐา ทวีสิน”นพ.พรหมินทร์กล่าว
เมื่อถามว่า แสดงว่า ปีหน้าจะมีนายกฯ 2 คน มาช่วยกันบริหารประเทศ นพ.พรหมินทร์ย้อนถามว่า “สองคนไหน”
เมื่อถามย้ำว่า คุณทักษิณกับคุณเศรษฐา นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า “ผมไม่ได้พูดเลยนะ ผมพูดชัดเจนว่า มีนายกฯคนเดียว ความคิดเห็นที่ดีมีรับฟังมาทั้งหมด ไม่ตกหลุมคุณหรอก”
เมื่อถามว่า ถ้าคุณทักษิณออกมาแล้ว ศูนย์กลางอำนาจยังอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า ไม่เคยออกไปจากที่ไหนเลย อยู่ที่นายกรัฐมนตรี ชื่อ เศรษฐา ทวีสิน เป็นการสั่งการต่าง ๆ ที่ทำเนียบรัฐบาล เป็นข้อที่เป็นการสั่งการ ที่เป็นกรอบของกฎหมาย
เมื่อถามว่า หลังพฤษภาคมปี 67 เมื่อสว.สรรหาหมดวาระจะไม่มีการเปลี่ยนตัวนายกฯ นพ.พรหมินทร์กล่าวทิ้งท้ายว่า “ไม่มีครับ (เสียงดังฟังชัด) ทำไมต้องเปลี่ยน ประเทศไทยได้ประโยชน์อะไรเหรอ”