ปี 2567 เริ่มนับถอยหลังเลือกตั้ง“อบจ.”ทั่วประเทศ

01 ม.ค. 2567 | 03:30 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ม.ค. 2567 | 05:23 น.

ปี 2567 การเมืองท้องถิ่นคึกคึกทั่วประเทศแน่ เมื่อ “นายก อบจ.-ส.อบจ.” จะหมดวาระลง 20 ธ.ค. 67 ต้องจัดเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วัน คือ ไม่เกิน 3 ก.พ. 68 “พรรคก้าวไกล” ไม่รอช้าเปิดรับสมัครสู้ศึก อบจ.แล้ว : รายงานพิเศษ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3953

สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) และ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ทั่วประเทศ จะดำรงตำแหน่งครบ 4 ปี และหมดวาระลงในช่วงปลายปี วันที่ 20 ธ.ค. 2567 

และจะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดใหม่  76 จังหวัด ภายใน 45 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด  

 

นั่นหมายความว่า จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้ง นายก อบจ. และ สมาชิก อบจ.ใหม่ ไม่เกินวันที่ 3 ก.พ. 2568

ทั้งนี้ การเลือกตั้งครั้งล่าสุด เมื่อ 20 ธ.ค. 2563 ที่ผ่านมา ถือเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งแรก หลังรัฐประหารในประเทศไทย ปี 2557 ภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 และ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562

ย้อนเลือกตั้ง อบจ. ปี 63

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้สรุปยอดผู้สมัครรับเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศ ที่มีการเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 2-6 พ.ย. 2563 โดยมีผู้สมัครทั่วประเทศ 76 จังหวัด รวมจำนวน 8,521 คน แบ่งออกเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ. จำนวน 335 คน ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิก อบจ. จำนวน 8,186 คน 

จังหวัดที่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกและสมาชิก อบจ.มากที่สุด คือ จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 352 คน ประกอบด้วย นายก อบจ. จำนวน 8 คน และสมาชิก อบจ.จำนวน 344 คน ส่วนจังหวัดที่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งน้อยที่สุด คือ จังหวัดเพชรบุรี จำนวน 34 คน ประกอบด้วย นายกฯ จำนวน 1 คน และสมาชิก จำนวน 33 คน

จังหวัดที่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น นายก อบจ. สูงสุด คือ จังหวัดขอนแก่น จำนวน 10 คน ส่วนจังหวัดที่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ. จำนวน 1 คน ได้แก่ จังหวัดกระบี่ เพชรบุรี และ อุทัยธานี ขณะที่จังหวัดที่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิก อบจ. เท่ากับจำนวนสมาชิก อบจ.ที่พึงมี คือ 1 คน จำนวน 32 จังหวัด รวม 167 เขตเลือกตั้ง

                              ปี 2567 เริ่มนับถอยหลังเลือกตั้ง“อบจ.”ทั่วประเทศ

“ก้าวไกล”คึกเลือกตั้ง อบจ.

สำหรับพรรคการเมืองที่มีความเคลื่อนไหว และ กระตือรือร้น เตรียมการ เตรียมพร้อม ที่จะกระโจนลงสู่ “สนามเลือกตั้องท้องถิ่น” คงไม่มีใครเกิน “พรรคก้าวไกล” 

เพราะเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เดินไปจังหวัดอุดรธานี ร่วมเวทีบรรยาย “ก้าวต่อไป อุดรท้องถิ่น” โดยมี นายณัฐพงษ์ พิพัฒน์ไชยศิริ ส.ส.อุดรธานี เขต 1 พร้อมด้วยสมาชิกพรรคก้าวไกล และประชาชนที่ให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังการบรรยายกว่า 400 คน

ตอนหนึ่งของการบรรยาย นายพิธา กล่าวว่า พรรคก้าวไกลไม่เสียกำลังใจ และมีสมาธิพร้อมทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน คะแนนเลือกตั้งที่พี่น้องชาวอุดรธานีมอบให้ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่สมัย พรรคอนาคตใหม่ เริ่มต้นที่ 140,000 คะแนน จนมาถึงพรรคก้าวไกล ช่วงเลือกตั้งนายก อบจ. เมื่อปี 2563 เพิ่มเป็น 180,000 คะแนน และ 220,000 คะแนนจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เชื่อว่าเลือกตั้ง อบจ. รอบนี้ จะเก็บคะแนนเพิ่มและคว้าชัยชนะแน่นอน

นายพิธา ยังกล่าวถึง “3 ข.” ได้แก่ “ขยับ” เนื่องจากพรรคก้าวไกลมี ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานคณะกรรมาธิการที่ดินฯ ก็เป็นของก้าวไกล จึงพร้อมเดินหน้าผลักดันและขยับเพื่อชาวอุดรธานี 
ต่อมาคือ “ขยาย” พรรคต้องขยายฐานสมาชิกให้มากขึ้น ขยายอาสาสมัครและแนวร่วมให้มากขึ้น เมื่อขยายแล้วจึงพร้อม “แข่ง” โดยไม่ต้องรอถึง 4 ปี ในการเลือกตั้งใหญ่ เพราะยังมีการ “เลือกตั้ง อบจ.” ที่ต้องแข่งขันในระดับท้องถิ่น

นายพิธา กล่าวถึงการเลือกตั้ง อบจ. ว่า พรรคก้าวไกลต้องการชนะในหลายจังหวัด เพื่อขยายผลจากการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา จากข้อมูลจะพบว่ามีประมาณ 40 จังหวัดทั่วประเทศ ที่คะแนนของพรรคก้าวไกลมาเป็นอันดับ 1 แต่ยังเหลืออีก 20-30 จังหวัด ที่คะแนนพรรคมาเป็นอันดับ 2 ดังนั้น ต้องเดินหน้ารณรงค์เต็มที่ 

เฟ้นผู้สมัคร อบจ. ต้นปี 67

ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2566 เพจพรรคก้าวไกล - Move Forward Party โพสต์ข้อความประกาศ พรรคก้าวไกลพร้อมส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่นทุกระดับ เริ่มต้นที่ “นายก อบจ.” 

นายศรายุทธิ์ ใจหลัก ผอ.พรรคก้าวไกล กล่าวถึงทิศทางของพรรคก้าวไกลในด้านการเมืองท้องถิ่นว่า เป้าหมายของพรรคก้าวไกล คือ การสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศ การสร้างพรรคก้าวไกลให้เป็นพรรคที่เข้มแข็งและยึดโยงกับสมาชิกพรรค และในอนาคตข้างหน้า คือการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในทุกระดับ 

พรรคก้าวไกลจึงกำลังเร่งเดินหน้าจัดตั้งโครงสร้างตัวแทนพรรคประจำจังหวัด และตัวแทนพรรคประจำอำเภอ ที่จะรวมกันเป็นคณะกรรมการพรรคระดับจังหวัด โดยจะเป็นกลไกสำคัญในการมีส่วนร่วมของสมาชิกพรรคผ่านตัวแทนในการตัดสินใจเรื่องสำคัญตั้งแต่ระดับพื้นที่ ไปจนถึงระดับชาติ ในที่ประชุมใหญ่ของพรรค   

และที่สำคัญคือ การเป็นกลไกหลักในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น โดยในตำแหน่งสำคัญ ๆ ได้แก่ นายก อบจ. และ นายกเทศมนตรีนคร คณะกรรมการพรรคระดับจังหวัด จะคัดสรรผู้สมัครร่วม กับ กรรมการบริหารพรรค ส่วนในตำแหน่งอื่น ๆ เช่น นายก อบต. หรือ นายกเทศมนตรีตำบล คณะกรรมการพรรคระดับจังหวัดจะมีสิทธิ์คัดสรรผู้สมัครได้ด้วยตนเอง โดยพรรคจะเริ่มคัดสรรผู้สมัครตั้งแต่กลางเดือน ม.ค. 2567 เป็นต้นไป 

“พิธา”ชูกระจายอำนาจ

ขณะที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้บรรยายในหัวข้อ “ความสำคัญของท้องถิ่นในการเมืองระดับชาติ” ในการจัดงานสัมมนาท้องถิ่นก้าวหน้า ประจำปี 2566 โดยมีนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในระดับตำบล ที่ทำงานร่วมกับคณะก้าวหน้า พร้อมด้วย สก. พรรคก้าวไกล เข้าร่วมเมื่อ วันที่ 18-19 พ.ย. 2566

นายพิธา กล่าวว่า การเมืองท้องถิ่นเป็นเรื่องที่สัมพันธ์กับการเมืองระดับชาติอย่างยิ่ง การเมืองท้องถิ่นซึ่งอยู่ใกล้ปัญหาที่สุดย่อมแก้ปัญหาให้ประชาชนในพื้นที่ได้ดีกว่า ส.ส. ที่ทั้งไม่มีงบประมาณและอยู่ไกลจากปัญหา แต่สิ่งที่เราเห็นทุกวันนี้คือการที่ ส.ส. ต้องนำปัญหาในพื้นที่มาปรึกษาหารือในที่ประชุมสภาฯ ทุกครั้งเกือบ 2 ชั่วโมง เพราะคนใกล้ปัญหาไม่มีอำนาจ ไม่มีงบประมาณ

ดังนั้น การกระจายอำนาจ คือ สิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชน เพื่อทำให้ท้องถิ่นมีอำนาจและงบประมาณ ในการแก้ปัญหาของประชาชน ส่วน ส.ส. จะได้มีเวลามากขึ้นในการทำหน้าที่จริง ๆ คือ การออกกฎหมายและตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหาร

“ผมเชื่ออย่างเต็มหัวใจว่า การปลดล็อกท้องถิ่น และการกระจายอำนาจเท่านั้น ที่จะทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ชัยชนะของทุกท่าน และความสำเร็จของทุกท่าน ก็คือชัยชนะของผมเช่นกัน” นายพิธา ระบุ

+เปิดสมัครลงชิง อบจ. 

ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลได้ประกาศเปิดรับสมัครผู้ลงเลือกตั้ง นายก อบจ. และสมาชิกสภาจังหวัด (สจ.) รอบแรก ระหว่าง 20 ต.ค.- 5 พ.ย. 2566 ใน 16 จังหวัด (จังหวัดอื่นๆจะเปิดรับสมัครในรอบถัดไป) จังหวัดที่เปิดรับสมัครในรอบแรกนี้ ได้แก่ 

ภาคเหนือ: ลำพูน ลำปาง เชียงใหม่ , ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: หนองคาย อุดรธานี สกลนคร มุกดาหาร, ภาคกลาง: สมุทรสงคราม ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ, ภาคตะวันออก: ระยอง ชลบุรี ตราด จันทบุรี, ภาคใต้: ภูเก็ต

พร้อมประกาศเชิญชวนสมาชิกพรรคก้าวไกล ที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด ลงสมัคร นายก อบจ. และ สจ.