“เศรษฐา” ตอบปมรีดทรัพย์ข้าราชการ ย้ำครม.เป็นสิ่งไม่ควรเกิดขึ้น

30 ม.ค. 2567 | 08:12 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ม.ค. 2567 | 08:23 น.

นายกฯ “เศรษฐา” ตอบปมร้อนรีดทรัพย์ข้าราชการ ประเด็นอธิบดีกรมการข้าว ยอมรับได้ย้ำในที่ประชุมครม. ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น

จากกรณีตำรวจ ปปป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. ซ้อนแผนเข้าจับกุมนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน หลังตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาข่มขู่รีดเงินอธิบดีกรมการข้าว เป็นเงินกว่า 3 ล้านบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐเรียกรับทรัพย์หรือประโยชน์อื่นใด โดยมิชอบ ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใดฯ ตามหมายจับ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนั้น

ล่าสุดในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (30 มกราคม 2567) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมหลังผู้สื่อข่าวถามว่าในการประมครม.มีการเน้นย้ำการแก้ปัญหาข้าราชการทุจริตหรือไม่ ว่า ได้เน้นย้ำเรื่องนี้ในที่ประชุมครม. ทั้งเรื่องงบประมาณ เรื่องร้องเรียน รวมถึงเรื่องของนักร้อง ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น

ส่วนจะต้องมีการกำกับดูแลในส่วนของคณะกรรมทำงานของรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ เพราะนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋งดอกจิก เคยเป็นคณะทำงานของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ซึ่งเรื่องนี้ นายกฯ ยอมรับว่า ที่ผ่านมารองนายกฯพีระพันธุ์ยืนยันว่านายยศวริศ ไม่ใช่คณะทำงาน และก็ได้ให้ข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เล่าบรรยากาศในที่ประชุมครม.ถึงเรื่องนี้ว่า นายกฯ ได้พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาในระหว่างการประชุมครม. โดยระบุว่า จะต้องมีการตรวจสอบ และต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วย

ด้าน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ ถึงการลงนามในเอกสารคำสั่งให้นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ออกจากคณะทำงานตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 โดยระบุเพียงว่า ตนไม่ทราบเรื่อง และไม่ได้ยุ่งเรื่องนี้

ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า การตบทรัพย์ข้าราชการมีอยู่ในทุกกระทรวง ตนคิดว่าคนธรรมดาหากแพ้ใจตัวเองโอกาสที่จะเกิดคอรัปชั่นก็เกิดขึ้นได้ จึงควรระวังและจัดการให้เด็ดขาดตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายไว้ ซึ่งกรณีนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกกระทรวง แต่จะมีหรือไม่มีหรือมากน้อยเพียงใดก็ต้องขึ้นอยู่กับความเป็นจริงด้วย 

ดังนั้นเมื่อประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้นก็ถือเป็นอุทาหรณ์ สะท้อนให้เห็นว่าไม่ควรเกิดขึ้นเด็ดขาด เพราะปัญหาทุจริตคอรัปชั่นเป็นการทำลายรากฐานสังคมไทย และรัฐมนตรีทุกคนมีหน้าที่ขับเคลื่อนเรื่องนี้อยู่แล้ว  และเมื่อรับทราบความผิดปกติก็จะเร่งดำเนินการแก้ไข ซึ่งต้องมีการกำชับว่าเรื่องในลักษณะนี้ไม่สามารถทำได้ ส่วนที่มีข่าวว่าเกิดลักษณะนี้ในหลายกรมก็เป็นไปตามที่ ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้ ซึ่งรัฐมนตรีทุกกระทรวงต้องกวดขันเรื่องนี้

ส่วนข้าราชการในกระทรวงพาณิชย์มีการแจ้งว่าถูกตบทรัพย์หลังจากเกิดเหตุการณ์ของกระทรวงเกษตรหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ปัญหาที่ผ่านมาก็รับรู้กันอยู่แล้วอย่าง เช่น กรณีที่เกิดเหตุกับองค์การคลังสินค้า และถูกอภิปรายในสภา ฉะนั้นหากพบปัญหา จะดำเนินการเด็ดขาดแม้จะยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนก็ตาม