นายกฯ สั่งกวาดล้าง "น้ำกระท่อม" ภายใน 1 สัปดาห์

วันที่ 8 ก.พ.2567  ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ตอบกระทู้ถามจากนาย โสภณ ซารัมย์ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ที่ได้ตั้งกระทู้ถาม 3 เรื่องสำคัญ คือ การแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมองว่าโลกสวยแก้ไม่ได้ หากเปรียบกับผู้ป่วยอยู่ในขั้นโคม่า ต้องปฏิรูปทั้งองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะแม้สถิติการแก้ไขจะลด แต่สวนทางกับความเป็นจริง ซึ่งเดิมปัญหาเกิดกับผู้ใช้แรงงาน แต่ปัจจุบันพบไปถึงนักเรียน

นอกจากยาบ้า ยาไอซ์ ยังพบน้ำกระท่อมมาผลิตใช้สูตรที่เรียกว่า 4X100 กำลังเป็นแฟชั่น รวมทั้งบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งยาเสพติดมีหลายประเภท หาง่ายราคาถูก การแก้ไขไม่จริงจังจนเป็นปัญหาสังคม ส่วนกฎหมาย ไม่เอื้อต่อผู้ปฏิบัติจับแล้วก็ปล่อย มองว่าปัญหายาเสพติดวิกฤต เท่ากับวิกฤตเศรษฐกิจหรือการศึกษา

นายเศรษฐา ชี้แจงว่า ประเด็นยาเสพติดเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนห่วงใย เพราะจากตัวเลขการจับกุม 4 เดือนสุดท้ายเมื่อปลายปีที่แล้ว (2566) สามารถจับผู้ค้ารายย่อยเพิ่มมากกว่า 40% จำนวน 32,000 เคส

ส่วนยาบ้าจับได้มากกว่าปีก่อน 2 เท่าคือกว่า 250 ล้านเม็ด โดยเน้นจับผู้ค้ารายใหญ่ไม่ให้ไปกระจายต่อ งรายใหญ่ที่ขายมากกว่า 500,000 ขึ้นไปจับได้ 62 เคส ยึดทรัพย์แล้วกว่า 2,500 ล้านบาท

"ยอมรับว่าตัวเลขเหล่านี้ ไม่ได้สบายใจ เพราะแม้ผู้ค้ารายใหญ่จะถูกจับไป ไม่ได้ส่งผลให้ราคายาบ้าแพงขึ้น จึงเป็นการบ้านของรัฐบาลที่ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก"

ส่วนเรื่องยาเสพติดที่จับได้แล้วใช้เวลาในการทำลายนานนั้น นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนที่จะจับและพิสูจน์ทราบ และเก็บตัวอย่างเล็กๆไว้ ส่วนที่เหลือให้ทำลายล้างโดยเร็ว เพื่อตัดปัญหาหาที่สังคมสงสัยว่าอาจมีการรั่วไหล  ขณะที่เรื่องน้ำกระท่อม ถือว่าเป็นยาเสพติดชนิดใหม่ที่วัยรุ่นให้ความสำคัญ แพร่กระจายไปเร็ว

ในกรณีนี้ นายกฯระบุว่า  ไม่เคยทราบว่ามีการจำหน่ายน้ำกระท่อม อย่างแพร่หลายตามสี่แยก จึงได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพูดคุย เพื่อให้กวาดล้างอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ร่วมกับฝ่ายปกครอง จนดำเนินการได้ภายใน 1 สัปดาห์ที่ จ.อุบลราชธานี  หลังได้พบกับ สส.ในจังหวัด พร้อมกันนี้ยังพยายามกระจายให้ดำเนินการต่อในจังหวัดอื่น ๆ ด้วย ย้ำว่าหาก สส.ในพื้นที่มีปัญหา ขอให้แจ้งรัฐบาลเพื่อจัดการอย่างทันควัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหายาเสพติดต้องโยงไปถึงปัญหาเพื่อนบ้านด้วย ประเทศที่มีปัญหาภายในเยอะมากคือเมียนมา ทะลักมาตามชายแดน แต่แม่ทัพภาค 3 สกัดการนำเข้าได้ดีมาก ปัญหาในประเทศเพื่อนบ้าน เงินเป็นสิ่งสำคัญ เขาต้องการเงิน จึงผลิตยาเสพติดส่งมาขายในไทย

"ผู้นำทั้ง 2 ประเทศ ต้องรับไปแก้ไข เรื่องการสกัดยาเสพติดตามชายแดนภาคเหนือ ทำได้ดีแล้ว แต่ก็ไปโผล่ภาคกลาง จ.กาญจนบุรี"

นายเศรษฐา กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การบำบัดคืนผู้เสพให้เป็นผู้ป่วย ก็เป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลต้องดำเนินการต่อไป โดยช่วงบ่ายวันนี้ จะเชิญ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข มาพูดคุยถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา