วันที่ 9 ก.พ.2567 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) ให้สัมภาษณ์ว่า ปีนี้อายุ 69 ปี ขอบคุณนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ รวมทั้งผู้แทนจากพรรคการเมืองต่างๆ
“ถ้าถามว่าวันเกิดปีนี้อยากได้อะไร อยากให้เป็นปีที่ประเทศชาติเราดีจริงๆ เศรษฐกิจดีจริงๆ อยากให้รัฐบาลประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความสุข ขอให้ปีมังกรทอง เป็นปีที่ดีที่สุดของพี่น้องประชาชน”
เมื่อถามว่าได้เน้นย้ำเรื่องเศรษฐกิจอะไรให้กับนายกฯ บ้าง นายสุวัจน์ กล่าวว่า ได้คุยกับนายกฯ ว่า เรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชนให้ความสำคัญ รอการแก้ไข และ มีการแลกเปลี่ยนกันในเรื่องต่างๆ นายกฯ ได้พูดถึงการลงทุน การส่งเสริมการท่องเที่ยว การสร้างพลังซอฟท์พาวเวอร์ มาช่วยการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตนก็ขอเป็นกำลังใจให้นายกฯประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหา
เมื่อถามว่าถึงขั้นให้กำลังใจนายกฯ ถือว่าปีนี้หนักหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ท่านสบายอยู่แล้ว แต่เราในฐานะพรรคร่วมสามารถที่จะสนับสนุนรัฐบาลได้ก็ยินดี เพราะตนอยู่การเมืองมาตั้งแต่อายุ 33 ปี เพราะฉะนั้นอะไรที่เรามีประสบการณ์ ที่จะเป็นประโยชน์ก็ยินดีสนับสนุนรัฐบาล อะไรที่เราช่วยได้เพื่อให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้
เมื่อถามถึงเรื่องแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต มองอย่างไรบ้าง นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนมอง 2 ส่วน คือ 1.ในเรื่องของความจำเป็น 2.ความถูกต้อง ตนคิดว่าถ้าเรื่องถ้ามองถึงเรื่องความจำเป็น เราจะเห็นได้ว่าช่วงก่อนเลือกตั้งทุกพรรคการเมือง ก็เสนอนโยบายเรื่องเศรษฐกิจ พอเลือกตั้งเสร็จ พรรคฝ่ายค้านชนะ
เพราะฉะนั้นก็แสดงว่า ก่อนเลือกตั้งเศรษฐกิจก็วิกฤตจริงๆ ประชาชนจึงเลือกพรรคฝ่ายค้านด้วยคะแนนเสียงที่มากกว่า ดังนั้น ดิจิทัลวอลเล็ต ก็เป็นนโยบายของพรรคการเมืองที่นำเสนอสู่ประชาชน เมื่อมาเป็นรัฐบาลก็ได้ทำตามที่รับปากกับพี่น้องประชาชนไว้ ก็เป็นเรื่องที่ดี เมื่อเป็นนโยบายถ้าสามารถขับเคลื่อนได้ มีประโยชน์จริง
เพราะวันนี้ก็ต้องยอมรับว่า เรื่องการลงทุนยังไม่กระเตื้อง การส่งออกก็ยังไม่ดีขึ้น นักท่องเที่ยวเราก็ยังรออยู่ว่าจะครบ 40 ล้านคนหรือไม่ และจีดีพีก็ยังไม่โต ยังถดถอยอยู่ เพราะภาพรวมของเศรษฐกิจ
“ผมคิดขณะนี้การกระตุ้นเศรษฐกิจยังมีความจำเป็นต่อเนื่อง เพื่อให้รากหญ้า และคนในชนบทอยู่ได้ ฉะนั้น การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเป็นเรื่องของวิชาการ เป็นเรื่องของนักเศรษฐศาสตร์มองต่างมุมกันได้ แต่ที่สุดแล้วคนที่เป็นรัฐบาลก็ต้องกล้าคิด กล้าตัดสินใจ กล้ารับผิดชอบ
โดยเฉพาะเมื่อเป็นนโยบายไปแล้วก็คงจะต้องตัดสินใจ ไม่ว่าผลการตัดสินใจนั้นจะเกิดอะไรขึ้นรัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบ อาจจะเป็นเรื่องที่ดีอาจจะเป็นเรื่องที่อาจจะไม่ประสบความสำเร็จนัก ก็เป็นเรื่องการตัดสินใจของรัฐบาล เพราะฉะนั้นเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตก็ถือว่าเป็นเครื่องมือ และนโยบายอย่างหนึ่งที่จะเข้าไปกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งก็พูดคุยกันมานานแล้ว” นายสุวัจน์ กล่าว
นายสุวัจน์ กล่าวต่อว่า นอกจากในเรื่องของข้อเท็จจริง ในเชิงนโยบายที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหา เราก็ต้องมองในมุมของกฎหมาย เนื่องจากมีข้อท้วงติงจากหลายหน่วยงาน เพราะฉะนั้นเมื่อได้ตัดสินใจเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตแล้ว เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ก็ควรจะดูมิติของกฎหมาย
“โดยเฉพาะข้อทักท้วงจากหน่วยหรือองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งแต่ละท่านก็มีความเป็นมืออาชีพอยู่แล้ว คงจะห่วงใยเรื่องนั้นเรื่องนี้ เมื่อหน่วยงานต่างๆ ให้ความเห็นครบถ้วนแล้วรัฐบาล ก็คงจะได้คำนึงถึงความห่วงใยต่าง ๆ และคงต้องมาลงรายละเอียดในมุมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในทางกฎหมาย
ถ้าจะดำเนินการต่อไปให้ถูกต้อง รัฐบาลก็ต้องคิดว่าดีต่อเศรษฐกิจหรือไม่ การดำเนินการทำไปแล้วโปร่งใส ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย รัฐบาลจะมีรายละเอียดอย่างไรก็ต้องฟัง แต่ความบอบบางของเศรษฐกิจ ขณะนี้ตนคิดว่าเรายังมีความจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ”
นายสุวัจน์ กล่าวว่า เมื่อตอนเกิดโควิด-19 เราก็ให้เงินไปเที่ยว ตอนนี้ก็คล้ายๆ กัน เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ได้ให้เงินไปเที่ยว แต่นำไปจับจ่ายใช้สอยตามประเภทสินค้า แต่เป็นเรื่องเดียวกัน
"เหมือนไทยเที่ยวไทย โหมดให้นำเงินไปท่องเที่ยว แต่ครั้งนี้เป็นโหมดของการนำเงินไปจับจ่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ให้มีการกระจายตัวของเม็ดเงิน ความจริงคอนเชปเดียวกัน แต่เปลี่ยนรูปแบบของเป้าหมาย และใช้วิธีการดิจิตอลวอลเลตเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้เราต้องกระตุ้นต่อไป ตัวเลขการลงทุน ส่งออก เรายังไม่สามารถไว้วางใจได้ นักท่องเที่ยวก็ยังไม่เข้ามา"