เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2567 เว็บไวต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา 2567 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. 2567
โดยมีสาระคือ
ก่อนวันที่อายุของวุฒิสภาสิ้นสุดลงไม่น้อยกว่า 30 วัน ให้ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัด ประสาน ผู้ว่าฯ และนายอำเภอ เพื่อเตรียมการแต่งตั้งบุคคลเป็นคณะกรรมการระดับอำเภอและคณะกรรมการระดับจังหวัด
ในการเปิดการรับสมัครรับเลือกสมาชิกวุฒิสภา ให้เริ่มรับสมัครไม่เกิน 15 วันนับจากวันที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภามีผลใช้บังคับ และกำหนดวันรับสมัครไม่น้อยกว่า 5 วัน แต่ไม่เกิน 7 วัน
คลิกดู : ระเบียบ กกต. ว่าด้วยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567
วันเลือกในระดับอำเภอ ต้องไม่เกิน 20 วัน นับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลารับสมัคร วันเลือกในระดับจังหวัดต้องไม่เกิน 7 วันนับแต่วันเลือกในระดับอำเภอ
และวันเลือกในระดับประเทศต้องไม่เกิน 10 วันนับแต่วันเลือกในระดับจังหวัด
ในการกำหนดวันเลือกในแต่ละระดับ ต้องเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร
สำหรับการแบ่งกลุ่มที่สมัครรับเลือกส.ว. จำนวน 20 กลุ่ม ตามมาตรา 11 แห่งพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 ดังนี้
1.กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง เช่น อดีตข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
2.กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เช่น ผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมาย หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
3.กลุ่มการศึกษา เช่น ครู อาจารย์ นักวิจัย ผู้บริหารสถานศึกษา หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
4.กลุ่มการสาธารณสุข เช่น แพทย์ทุกประเภท เทคนิคการแพทย์ พยาบาล เภสัชกร หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
5.กลุ่มอาชีพทำนา ปลูกพืชล้มลุก หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
6.กลุ่มอาชีพทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
7.กลุ่มพนักงานลูกจ้างที่ไม่ใช่ราชการหรือหน่วยงานรัฐ ผู้ใช้แรงงาน อื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
8.กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาฯ และสาธารณูปโภค ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
9.กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อยตามกฎหมาย หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
10.กลุ่มผู้ประกอบกิจการอื่นนอกจาก (9)
11.กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจหรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว เช่น มัคคุเทศก์ ผู้ประกอบกิจการอื่นหรือพนักงานโรงแรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
12.กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
13.กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การพัฒนานวัตรกรรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
14.กลุ่มสตรี
15.กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการหรือผู้ทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
16.กลุ่มศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี การแสดงและบันเทิง นักกีฬา หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
17.กลุ่มประชาสังคม กลุ่มองค์กรสาธารณประโยชน์ หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
18.กลุ่มสื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
19.กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
20.กลุ่มอื่นๆ
เมื่อผู้สมัครผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติครบถ้วน จะเข้าสู่กระบวนการเลือกกันเองภายใน 20 กลุ่ม ผู้สมัครแต่ละคนมีสิทธิเลือกสมัครได้แค่หนึ่งกลุ่มและในหนึ่งอำเภอโดยทุกกลุ่มจะเลือกกันเอง เมื่อได้ตัวแทนระดับอำเภอก็ไปคัดเลือกกันเองต่อในระดับจังหวัด แล้วไปคัดเลือกกันเองต่อในระดับประเทศ
โดยผู้ได้คะแนนสูงสุด 10 อันดับแรกของกลุ่มๆ นั้น ได้รับเลือกเป็น ส.ว.จะได้ตัวแทนจาก 20 กลุ่ม กลุ่มละ 10 คน เป็นตัวจริงที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็น ส.ว. 200 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสมาชิกวุฒิสภาชุดปัจจุบัน จำนวน 250 คน ซึ่งมาจากกระบวนการสรรหาและคัดเลือกโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะหมดวาระลงภายในวันที่ 11 พ.ค. 2567 นี้