กกต.ของบ 1,800 ล้านบาท คัดเลือก ส.ว.ชุดใหม่

16 ก.พ. 2567 | 09:02 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ก.พ. 2567 | 09:06 น.

ประธาน กกต.เผยของบจัดคัดเลือกส.ว. 1,800 ล้านบาท ส่วนพิจารณาปมทุจริตเลือกตั้ง ส.ส.เหลือ 35 เรื่อง แจงคำร้อง “ยุบพรรคก้าวไกล”อยู่ระหว่างศึกษาคำวินิจฉัยศาล รธน. อาจเรียกผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงเพิ่ม

วันนี้ (16 ก.พ. 67) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมเลือกวุฒิสภา (ส.ว.) ว่า มีการของบประมาณไปแล้วประมาณ 1,800 ล้านบาท และเพิ่งมีการจัดประชุมผู้อำนวยการจังหวัดทั่วประเทศ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา 

ขณะที่ระเบียบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา 2567 ประกาศราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว และขอให้ทุกภาคส่วนที่เป็นทีม กกต. ศึกษา และเตรียมการทำงาน

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการตรวจสอบคำร้องในการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 ยังไปไม่ถึงไหน นายอิทธิพร กล่าวว่า ขณะนี้ดำเนินการไปเยอะแล้ว โดยมีคำร้องเข้ามา 373 เรื่อง พิจารณาแล้วเสร็จไปเยอะ เหลืออยู่ 35 เรื่อง 

“ตามระเบียบกกต.ต้องทำให้เสร็จภายใน 1 ปี ซึ่งยังมีเวลาอีก 3 เดือน ก็จะพยายามทำให้เสร็จ ตอนนี้เริ่มตรวจสอบคำวินิจฉัยที่ออกมาแล้ว ยืนยันว่าไม่ช้า”

ประธาน กกต. ยังกล่าวถึงกรณีมีข้อวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานของ กกต. อาจจะเป็นเครื่องมือทางการเมืองในการยุบพรรคการเมือง ว่า กกต.ไม่ได้คิดอย่างนั้น แต่ตนก็ไม่สามารถห้ามใครคิดแบบนั้นได้ กฎหมายพูดเสมอว่าให้กกต.มีหน้าที่อะไรบ้าง ถ้าบทบาทเป็นอย่างไรกกต.ก็ต้องทำ คงไม่ได้เป็นเครื่องมืออะไร 

ส่วนที่ขณะนี้มีการยื่นขอให้ยุบพรรคก้าวไกล หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเรื่องนโยบายหาเสียงแก้ไขมาตรา 112 นั้น ประธาน กกต. กล่าวว่า การยุบพรรคหรือไม่ ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงปรากฏ เราไม่ได้ดูชื่อพรรค ถ้าข้อเท็จจริงปรากฏว่าพรรคการเมืองใด ทำอะไรอย่างไร แล้วเรื่องมาถึงอำนาจหน้าที่ของกกต. เราก็ทำตามนั้น  ที่ผ่านมาเราพยายามทำตามกฎหมาย ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการทำงานโดยแท้ 

เมื่อถามว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยแล้ว กกต.จะดำเนินการอย่างไรต่อไป นายอิทธิพร กล่าวว่า นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ที่ทราบกันทั่วไป แต่เนื่องจากศาลวินิจฉัยวันที่ 31 ม.ค. ต่อมาวันที่ 1-2 ก.พ. มีคนมายื่นร้องต่อ กกต. เพื่อขอให้ส่งเรื่องยุบพรรคก้าวไกล และวันที่ 6 ก.พ. สำนักงานกกต.เสนอเรื่องตามกระบวนการการทำงานปกติให้กกต.ทราบว่า มีเรื่องนี้ 

กกต.ก็ขอให้สำนักงานและนายทะเบียนพรรคการเมือง ไปศึกษาคำวินิจศาลเท่าที่มีอยู่ในวันอ่านคำวินิจฉัย และศึกษาว่าตามพ.ร.ป.พรรคการเมืองจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง ตามอำนาจหน้าที่ที่มี และวันที่ 13 ก.พ. ก็มีการเสนอเรื่องมาว่า อยู่ระหว่างการศึกษา 

อย่างไรก็ตาม เพื่อความรอบคอบ เพื่อความเป็นธรรม และชัดเจน อาจจะให้ศึกษาคำวินิจฉัยกลาง ซึ่งตามแนวทางการทำงานทราบว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาภายใน 2 สัปดาห์ คาดว่าจะเป็นภายในวันนี้ ไม่ช้าไปกว่านี้แน่ 

“เมื่อกกต.มีข้อมูล เอกสารครบถ้วน ก็จะวินิจฉัยตามนั้น ส่วนจะได้ข้อสรุปเมื่อไหร่นั้นก็ขึ้นอยู่กับการศึกษาคำวินิจฉัยของศาล หลักฐานและดูว่ามีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องข้อกฎหมายที่เขียนชัดในตามมาตรา 92 และ 93”

เมื่อถามว่าหากยื่นยุบพรรคตามกฎหมาย ต้องอิงตั้งแต่กรรมการบริหารพรรคชุดเก่าที่เคยเสนอร่างแก้ไขมาตรา 112 หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังไม่ได้ลงรายละเอียดขนาดนั้น เพราะยังมีกระบวนการทำงาน 1.ศึกษาคำวินิจฉัยให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อน 2. สำนักงานกกต. มีความเห็นเป็นอย่างไร จะเสนอกกต.ใช้อำนาจหน้าที่อย่างไร ทั้งนี้ไม่มีกรอบเวลาชัดเจน แต่เรื่องนี้ต้องทำโดยไม่ชักช้า เพราะมีคำวินิจฉัยออกมาชัดเจนแล้ว แต่กระบวนการทำงานหากทำละเอียด ครบถ้วนได้ก็จะเป็นประโยชน์ 

ส่วนเมื่อมีคำวินิจฉัยของศาลแล้ว ยังต้องเรียกผู้ถูกกล่าวหามาให้ข้อมูล ชี้แจงเพิ่มเติมหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า อาจจะมีกระบวนการภายใต้กรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่นายทะเบียนพรรคการเมืองตั้ง ขณะนี้เราทำคู่ขนานกันไประหว่างสำนักงานเสนอความเห็นว่า เรื่องนี้มีหลักฐานอันควรเชื่อแล้วหรือยัง ซึ่งก็ต้องไปดูว่าเรื่องนี้จะตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างไร ก็ทำพร้อมๆ กัน เพราะฉะนั้น ถ้าจะเรียกก็อาจเรียกในกรอบของคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง