10 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ได้ยื่นคำร้องขอฝากขัง นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และนายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือแฟรงค์ เป็นครั้งที่ 3 ระยะเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 9-20 มี.ค. 67 เนื่องจากมีความจำเป็นต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติม ทั้งยังต้องรอผลการตรวจทางวิทยาศาสตร์จากกองพิสูจน์หลักฐาน (คลิปวิดีโอ) ว่า มีการแก้ไข ดัดแปลงหรือไม่ เพื่อประกอบการพิจารณาทำความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสอง และทนายความผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องคัดค้านการฝากขัง
ศาลพิเคราะห์คำร้องและข้อเท็จจริงจากการไต่สวนแล้วเห็นว่า คดียังอยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ จึงมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องฝากขังได้ตามขอพร้อมกำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายในการฝากขังครั้งที่ 3
ขณะที่ นางทิชา ณ นคร ผอ.ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน พร้อมด้วยนายสมหมาย ตัวตุลานนท์ บิดาของ น.ส.ทานตะวัน นายเอกชัย หงส์กังวาน น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม นายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือสายน้ำ และมวลชนจำนวนหนึ่งเดินทางมาที่ศาลอาญาเพื่อยื่นคำแถลงขอให้ศาลพิจารณาไม่รับฝากขังตะวันและแฟรงค์
นางทิชา ผอ.ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน กล่าวว่า ปัจจุบันเรือนจำทั่วประเทศมีการคุมขังผู้ต้องโทษกว่า 250,000 ราย โดย 80% เป็นนักโทษเด็ดขาด ส่วนอีก 20% เป็นนักโทษที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีและไม่ได้รับการประกันตัว
ต่อมามีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า ถึงที่สุดศาลยกฟ้องแสดงให้เห็นว่า การคุมขัง 20% ดังกล่าวเป็นการคุมขังผู้บริสุทธิ์ซึ่งเราต้องมาคำนวณเกี่ยวกับวันเวลา อิสรภาพ โอกาสในการทำมาหากินของพวกเขา ถ้าเราทำงานวิจัย นี่คือความสูญเสียมหาศาล ก่อนย้ำว่า สิทธิในการประกันตัวเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่ได้กำหนดไว้
ทั้งนี้ มีรายงานว่า หลังจากที่นางทิชาและนายสมหมาย บิดาของตะวันได้ขึ้นไปยื่นเอกสารคำร้องคัดค้านการฝากขังและขอปล่อยตัวชั่วคราว ทั้งหมดได้ลงมาทำกิจกรรมจุดเทียนบนขั้นบันไดหน้าศาลอาญาพร้อมร้องเพลงเเสงดาวแห่งศรัทธา จากนั้น รปภ. ได้ขอความร่วมมือให้ทั้งหมดไปจุดเทียนที่ด้านนอกบริเวณศาล ต่อมาได้เคลื่อนไปยังพื้นที่อนุญาตและจุดเทียนพร้อมร้องเพลงเพื่อมวลชน