วันนี้(24 มี.ค.67) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะทนายความนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “26 มีนาคม 67 นัด พิพากษา” ระบุ
คดีอาญาที่ นายทักษิณ ชินวัตร ฟ้อง นายชวน หลีกภัย ข้อหาหมิ่นประมาท ต่อกรณีที่นายชวน หลีกภัย ได้บรรยายที่โรงเรียนการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี พ.ศ.2555 โดยได้กล่าวถึงนโยบายการแก้ปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในสมัยรัฐบาลทักษิณ
มีถ้อยคำที่ปรากฏในคำฟ้องที่กล่าวหาว่า นายชวน หลีกภัย ได้พูด ข้อความคือ
“...รูปแบบการปกครองทุกอย่างต้องพัฒนาไปข้างหน้า แต่ต้องยอมรับว่ารูปแบบการปกครอง ของประเทศไทยให้โอกาสมาก บ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นสิ่งที่เราต้องทำ คนไทยมีศักยภาพ แต่เรามีจุดอ่อนที่นักการเมืองโกง ซึ่งมาจากธุรกิจการเมืองและอุปสรรคของประชาธิปไตย คือ การยึดอำนาจระบอบประชาธิปไตย อำนาจประชาธิปไตยจะใช้ผ่านองค์กร สถาบันทั้งนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และตุลาการ โดยมีการคานอำนาจซึ่งกันและกัน
แต่เมื่อบ้านเมืองมีปัญหาจึงเกิด องค์กรอิสระขึ้นมา เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) แต่เมื่อระบบทักษิณเกิดขึ้นก็ใช้วิธีการนอกกฎหมาย
สำหรับปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ปัจจุบันเป็นเพราะนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประกาศว่าจะแก้ไขปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้หมดภายในสามเดือนนั้น ทั้งที่ขณะนั้นไฟใต้มอดแล้วในสมัยที่ตนเป็น นายกรัฐมนตรี
แต่เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีกลับใช้คำว่าโจรกระจอก และมียกเลิกศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) หันมาใช้นโยบาย “ฆ่าหมดก็จบ” ตรงนี้คือที่มาของการนองเลือดในปัจจุบันนี้...”
นายชวน หลีกภัย ให้การปฏิเสธ และได้นำพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคลและพยานเอกสารเข้าสืบเพื่อหักล้างพยานโจทก์ให้ศาลได้เห็นว่าไม่ได้กระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท
โดยศาลอาญากรุงเทพใต้ได้สืบพยานเสร็จสิ้น เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา และจำเลยได้ยื่นคำแถลงการณ์ปิดคดีเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2567 นัดฟังคำพิพากษาวันที่ 26 มีนาคม 2567 เวลา 9.00 นาฬิกา
“นายชวน หลีกภัย จำเลย นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ทนายจำเลย และ ผมทนายความจำเลยร่วมกับทีมทนายจะเดินทางไปฟังคำพิพากษาของศาล” นายราเมศ ระบุ